ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัว โดยพวกที่ปรับขึ้นโดดเด่น คือ หุ้นบริษัทยา อย่าง LLY NVO MRK รวมไปถึง TSLA มีแรงซื้อกลับ หลังจากทรัมป์-มัสก์ ยุติการปะทะกันผ่านสื่อ

🔎 สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ เราประเมินว่า การปะทะกันก่อนหน้านี้อาจเป็นกระแสที่มัสก์ตั้งใจจุดขึ้นมา เพื่อดึงความสนใจไปที่ปัญหาการคลัง โดยมุ่งหวังให้เกิดแรงกดดันในการลดการขาดดุลงบประมาณ

🔊เรื่องราวที่น่าสนใจ

1. ศาลอุทธรณ์กลาง (Federal Circuit) มีคำสั่งให้มาตรการภาษีของทรัมป์ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปแบบ “ชั่วคราว”

• ศาลมองว่า ความเสียหายต่อการทูตและการเจรจาการค้าระหว่างประเทศมีความสำคัญมากกว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ธุรกิจขนาดเล็กกล่าวอ้าง
• เรื่องนี้ถือว่ามี “ความสำคัญอย่างยิ่ง” จึงกำหนดให้พิจารณาคดีอย่างเร่งด่วนใน 31 ก.ค.

🔎 ผลการตัดสินนี้ถือเป็นชัยชนะของทรัมป์ เป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจะกดดันให้หุ้นโลกผันผวนสูงขึ้น

2. สหรัฐฯ – จีน ตกลงกันที่จะผ่อนคลายความขัดแย้ง

• ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักการตามสัญญา “สงบศึกการค้าที่เจนีวา” เมื่อ 12 พ.ค. โดยสาระสำคัญคือการพักเรื่องขึ้นภาษี รวมทั้ง พยายามแก้ไขมาตรการกีดกันที่ไม่ใช่ภาษี โดยเฉพาะ เรื่อง Rare Earth และชิป
• แผนนี้จะถูกนำเสนอต่อผู้นำทั้งสองประเทศเพื่ออนุมัติ หากได้รับความเห็นชอบ ก็จะสามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที
• ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับตลาด และไม่ได้เปลี่ยนภาพความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในระยะยาว

3. สาเหตุที่ทำให้หุ้นยาบริษัทสหรัฐฯ ขึ้นแรงกว่าตลาดมาก คืออะไร?

• ในการประชุม Goldman Sachs Healthcare Conference ระหว่างวันที่ 9-10 มิ.ย. ที่ผ่านมา บรรดาบริษัทยารายใหญ่ได้หารือกับทีมงานทรัมป์เกี่ยวกับแนวทางการลดราคายาภายใต้หลักการ “Most Favored Nation” ซึ่งหมายถึง สหรัฐฯ ต้องไม่จ่ายค่ายาแพงกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ
• อย่างไรก็ตาม ผลการหารือยังไม่ชัดเจน ฝ่ายรัฐยังไม่ได้เสนอแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ทั้งในแง่เวลาและวิธีดำเนินการ รวมถึงยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับเรื่องยานวัตกรรม การที่รายละเอียดเหล่านี้ยังไม่ถูกกำหนด ถือเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลอาจยังต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ และในที่สุดมาตรการที่ออกมาอาจไม่รุนแรงเท่าที่ทรัมป์เคยประกาศไว้ก่อนหน้า

🔎 การควบคุมราคายานวัตกรรมเป็นสิ่งที่ทำได้ยากในทางปฏิบัติ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับต้นทุนวิจัยที่สูงและความซับซ้อนของระบบสุขภาพในแต่ละประเทศ ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นกลุ่มสุขภาพโดยรวมได้สะท้อนความกังวลเชิงนโยบายระยะสั้นไปพอสมควรแล้ว
แนะนำ ✅ ลงทุนผ่านกองทุน ES-HEALTHCARE ซึ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่เป็นเจ้าของนวัตกรรมทางการแพทย์ ที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาวสูง เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ เครื่องมือแพทย์ และธุรกิจวิจัยและพัฒนา

🔎 สำหรับผู้ที่สนใจหุ้นรายตัว อาจพิจารณา Eli Lilly (LLY) และ Novo Nordisk (NVO) ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยาลดน้ำหนัก โดยเฉพาะในกลุ่มยากระตุ้น GLP-1 ที่ได้รับความนิยมสูงทั่วโลก ตลาดยาลดน้ำหนักถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ยังเติบโตได้อีกมาก และได้รับการยอมรับของแพทย์ในการใช้ยากลุ่มนี้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องฟ

Thanachart Global Investment

🌟ก้าวสู่การเป็นเจ้าของหุ้นชั้นนำระดับโลกใน 10 ประเทศ ได้แล้ววันนี้
⛔️ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน
📱เทรดผ่านระบบซื้อขายเดียวตลอด 24 ชม.
✅ฟรีค่าธรรมเนียมโอนเงินไป-กลับ
🇺🇸 เป็นเจ้าของหุ้นสหรัฐเงินลงทุนเริ่มต้นหลักร้อย ผ่านการซื้อขายแบบเศษหุ้นได้ (US fractional shares)
🇺🇸บริการยื่นภาษีสหรัฐ เพียง 1,000 บาท ใช้บริการถึงสิ้นปี 2568

🌟คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://global-investment.thanachartsec.com/

📱 โหลดเลย Think+ global app เทรดได้ง่ายๆตลอด 24 ชม
https://microsite.thanachartsec.com/mobile-link/thanachart-think-plus-global
📞สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือ Contact center 02-779-9000