ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานนี้บรรยากาศเหมือนคนทั้งห้องกำลังกลั้นหายใจรอฟังเสียงกริ่งจาก Fed จึงทำให้ดัชนีหลักแกว่งตัวแค่ในกรอบแคบๆ แต่ถ้ามองเจาะไปที่ราย sector จะเห็นภาพชัดเจน โดย Energy พุ่งแรงสุดในวัน ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันขยับขึ้น ขณะที่ หุ้นโรงไฟฟ้ากลายเป็นตัวถ่วงตลาด เพราะราคาพลังงานที่พุ่ง กดดันให้ต้นทุนบริษัทสูงขึ้น ตรงข้ามกับค่าไฟที่ไม่สามารถขยับขึ้นได้อย่างอิสระ

🔊เหตุการณ์สำคัญ

1. สรุปตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ส.ค.

• ตัวเลขโดยรวมแข็งแกร่งทั้งภาพรวมและองค์ประกอบหลัก โดย ยอดค้าปลีกโดยรวม โต 0.6% m-m แรงกว่าคาดที่ 0.2% m-m ขณะที่ สินค้าหลักไม่รวมรถและก๊าซ โต 0.7% m-m เร่งตัวจากเดือนก่อนที่โต 0.3%m-m
• ประเด็นที่น่าสนใจคือ
  i) พฤติกรรมการใช้จ่ายเปลี่ยนไปจากเดิม โดย การซื้อสินค้าออนไลน์ รวมทั้ง สินค้าฟุ่มเฟือยยังโตแข็งแกร่ง
  ii) วัสดุก่อสร้างแผ่วแรง บ่งชี้ถึงการลงทุนที่มีทิศทางชะลอลง
• ผลกระทบต่อตลาดมีดังนี้
  i) ตัวเลขค้าปลีกที่แข็งแกร่ง จะลดความเป็นไปได้ที่ Fed จะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยแรง ในการประชุมรอบนี้
  ii) การกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ยังคงจำเป็น ยังวางใจตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้ เนื่องจาก ตัวเลขในเชิงของ Soft data ยังอ่อนแอ และตัวเลขฝั่งตลาดแรงงานก็เริ่มสะดุด → เตือนว่าภาพเศรษฐกิจอาจสดใสได้ไม่นาน

2. ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ดูน่าสนใจ

• ตัวสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ โดย API ลดลงแรงกว่าที่คาด: สต๊อกน้ำมันดิบลดลง 3.42 ล้านบาร์เรล ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดแค่ 1.6 ล้านบาร์เรล ตัวเลขดังกล่าวอาจบ่งชี้ว่าซัพพลายกำลังตึงตัว ซึ่งถ้าภาวะดังกล่าวยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อาจทำให้ในอนาคตความกังวลเงินเฟ้อมีโอกาสกลับมาอีกครั้ง
• ตัวเลขนำเข้าของญี่ปุ่นดูไม่สดใส: นำเข้าลดลง 5.2% แย่กว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 4.2% และต่ำสุดในรอบ 6 เดือนด้วย สะท้อนว่ากำลังซื้อภายในประเทศยังคงอ่อนแรง ยังไม่ใช่จังหวะที่ควรรีบลุยหุ้นญี่ปุ่น

3. จีนประกาศนโยบายชุดใหญ่เพื่อกระตุ้นการบริโภคภาคบริการ ใน 5 ด้าน

• ด้านเปิดตลาด เพื่อส่งเสริมบทบาทของเอกชนและต่างชาติ:
  i) ขยายโครงการและพื้นที่นำร่อง เพื่อเปิดทางให้เอกชนและต่างชาติทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น ในภาคส่วนที่ปกติรัฐควบคุมเข้มงวดเช่น ภาคโทรคมนาคม-การศึกษา-สุขภาพ
  ii) ผ่อนปรนข้อจำกัดสำหรับบริการระดับกลาง-สูง เช่น โรงพยาบาล, สันทนาการ, การพักผ่อนและการท่องเที่ยว
• ด้านการท่องเที่ยว และวัฒนธรรม:
  i) ส่งเสริมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ, กิจกรรมกีฬาในท้องถิ่น
  ii) ขยายนโยบาย visa-free / visa waiver, multi-entry visas ให้กับผู้มาจากต่างชาติ และปรับปรุงนโยบายที่เกี่ยวกับที่พัก, การสื่อสาร, การชำระเงินให้สะดวกขึ้น
• ด้านการสนับสนุนทางการเงิน:
  i) ให้สถาบันการเงินเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้แก่ธุรกิจภาคบริการ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน
  ii) อุดหนุนดอกเบี้ย / ลดต้นทุนทางการเงินให้ธุรกิจประเภทบริการ เช่น ท่องเที่ยว, โรงแรม, ร้านอาหาร ฯลฯ
• ด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับบริการ:
  i) ใช้เงินทุนจากรัฐบาลกลางและพันธบัตรท้องถิ่น มาสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น วัฒนธรรม, ท่องเที่ยว, สถานดูแลผู้สูงอายุ, กีฬา, สถานรับเลี้ยงเด็ก ฯลฯ
• ด้านอำนวยความสะดวกต่อผู้บริโภคต่างชาติ และการใช้จ่ายในประเทศ
  i) ปรับให้คนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศสะดวกขึ้น ทั้งในแง่ของ visa entry, ที่พัก, การสื่อสาร, วิธีจ่ายเงิน
  ii) กระตุ้นการแลกเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม trade-in (อัปเกรดของเก่า)

🔍 มุมมองของเรา

• มาตรการดังกล่าวครอบคลุมหลายด้าน ไม่ใช่แค่ลดข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่มีการสนับสนุนจริงทางการเงิน + โครงสร้างพื้นฐาน + การเปิดตลาด ซึ่งช่วยกระตุ้น demand ภาคบริการได้หลายช่องทางพร้อมกัน
• มองมาตรการดังกล่าวจะส่งผลบวกในระยะกลางถึงยาวต่อหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ผ่านกองทุน SCBASHARES(A), หุ้นโรงแรมแนว lifestyle ที่ผลดำเนินงานเด่น ATAT US, หุ้น Platform ท่องเที่ยว TCOM US, และอาจรวมไปถึงหุ้นการศึกษาที่เคยถูกกดดันมานาน อย่าง 6169 HK และ 2001 HK

Thanachart Global Investment

🌟 เพิ่มโอกาสในการลงทุนหุ้นนอกให้คุณง่ายกว่าเดิมกับ Thanachart Global Investment

เปิดบัญชีฟรี | ลงทุนไม่มีขั้นต่ำ | ค่าธรรมเนียมสุดพิเศษ | ฟรีโอนถึงสิ้นปี | ลงทุนได้ถึง 10 ประเทศ | เทรดหุ้นสหรัฐ 24 ชั่วโมง

📞เปิดบัญชีเลย คลิก https://cutt.ly/orJYNSv3 หรือ Contact center 02-779-9000

เทรดหุ้นนอกง่าย ตลอด 24 ชม. ด้วยแอป Think+ Global
👉 โหลดเลย https://onelink.to/p6g8w2