เมื่อคืนดัชนี VIX ทะยานขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐมีแรงขายแบบทั่วถึงตั้งแต่ช่วงเปิดไปจนถึงปิดลาด กลุ่มที่อ่อนแอเป็นพิเศษ คือ หุ้นวัฏจักร และหุ้นธีมที่อยู่ในกระแสดัง อย่าง เหมือง Rare Earths,และพลังงานนิวเคลียร์

🔥 สำหรับนักลงทุนที่กังวลต่อภาวะฟองสบู่ในหุ้นร้อนแรงทั้งหลาย และเข้าใจความเสี่ยงของ inverse ETF สามารถพิจารณาเก็งกำไรผ่าน SARK ETF

เหตุการณ์น่าสนใจ

1. ความเสี่ยงในระบบเครดิตกำลังปะทุ!

• เมื่อคืนมีกรณีอื้อฉาวเกิดขึ้นกับหุ้นกลุ่มการเงินหลายบริษัท อาทิ
  Zions Bancorp -13% หลังพบว่ามี หนี้เสีย 50 ล้านดอลลาร์ จากลูกค้าที่กู้เงินแล้วไม่จ่าย ทำให้ต้อง “ตัดหนี้ดังกล่าวทิ้ง”
  Western Alliance -11% เจอลูกหนี้ที่โกงเช่นเดียวกัน
  Jefferies Financial Group -11% เพราะไปมีส่วนพัวพัน (ปล่อยกู้/ลงทุน) กับ First Brands ที่ตกแต่งบัญชี และเพิ่งล้มละลายไป
• นักลงทุนกลัวว่ากรณีนี้อาจเป็นแค่ “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ของหนี้เสียและกลโกงในระบบ

2. สรุปดัชนีการสำรวจภาคการผลิตฟิลาเดลเฟีย ออกมา “ผสม”

• ภาพรวมดัชนีหลักร่วงลงสู่ -12.8 จาก 23.2 ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2025
• รายละเอียดเชิงลึก ออกมาผสมผสาน การขนส่งสินค้าชะลอลงแต่ยังเป็นบวก คำสั่งซื้อใหม่กลับเร่งขึ้น การจ้างงานปัจจุบันและชั่วโมงทำงานลดลง แรงกดดันด้านราคาผ่อนคลายลง
• ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตสหรัฐยังคงเปราะบาง ขณะที่ นักลงทุนควรจับตาภาคบริการซึ่งสำคัญกว่า ซึ่งเพิ่งส่งสัญญาณชะลอลงมาค่อนข้างเร็ว จากในรายงาน ISM ตัวล่าสุด

3. จีนกล่าวโทษสหรัฐว่าเป็นฝ่ายจุดชนวนความขัดแย้ง Trade War

• รัฐมนตรีพาณิชย์จีนกล่าวว่า สาเหตุที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างทั้งคู่ ปะทุขึ้นอีกครั้งนั้น สหรัฐเป็นฝ่ายเริ่มก่อนด้วยการ ประกาศกฎใหม่ที่ขยายขอบเขตการคว่ำบาตรไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจีนที่ถูกขึ้นบัญชีดำ, การที่จีนออกกฎควบคุมการส่งออก “แร่หายาก” ก็เพื่อป้องกันตัวจากสหรัฐ

🔥 เรามองว่า ปัจจุบันเสียงของบรรดาผู้กำหนดนโยบายในจีนดูค่อนข้างแตกแยก มีทั้งพวกที่ต้องการเน้นประนีประนอม และพวกที่ต้องการกดดันสหรัฐแต่ภาพรวมคือความไม่ไว้ใจต่อสหรัฐมีมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงว่าการเจรจากับสหรัฐอาจไม่ราบรื่นอย่างที่ตลาดคาดหวังล่วงหน้าไปแล้ว… ในช่วงนี้เราจึงยังคงเน้น “หลีกเลี่ยง” หุ้นจีน H-Shares ที่อ่อนไหวต่อกระแสทุนจากต่างประเทศ

4. สรุปถามตอบกับ Ray Dalio เขาให้มุมองที่น่าสนใจ ดังนี้

• เขาถือทั้งทองและบิตคอยน์ เพราะมองว่า เป็นสินทรัพย์ที่คนอาจใช้เก็บมูลค่าเมื่อไม่ไว้ใจระบบเงินกระดาษแต่มั่นใจทองคำมากกว่า เพราะ Bitcoin มีความเสี่ยงจากรัฐบาลสูงกว่า รัฐบาลสามารถควบคุม/แบนได้
• ไม่ตอบคำถามว่าทอง “แพงหรือถูก” แต่ย้ำว่าจำเป็นต่อการ hedge ความเสี่ยงเชิงระบบทองไม่สามารถวัดถูกแพง ด้วยการดูแค่ต้นทุนผลิต เพราะทองมีมูลค่าจากความเชื่อถือของคนตลอดพันปี และจากบทบาทเงินสำรองระหว่างประเทศ การที่ปัจจุบันมีพรีเมียมที่สูง สะท้อนถึงความกลัวและความต้องการ “ที่หลบภัย” จากสงครามระเบียบโลกใหม่ (US-China decoupling, currency wars)
• โลกเปลี่ยนจากมาตรฐานทองคำมาแล้ว และไม่น่าจะกลับไปได้จริง เพราะรัฐบาลต้องการความยืดหยุ่นทางการเงิน
• ควรระวัง counterparty risk ในการถือ ETF สำหรับ ETF ใช้เก็งกำไรได้ แต่ก็ควรมีทองจริงไว้ด้วย
• ทำไมถึงเลือกทอง ไม่ใช่ silver เพราะ ทองมีความหนาแน่น, คงทน, หายาก และไม่ถูกใช้ไปในอุตสาหกรรม

🌎Thanachart Global Investment
🌟 เพิ่มโอกาสในการลงทุนหุ้นนอกให้คุณง่ายกว่าเดิมกับ Thanachart Global Investment

เปิดบัญชีฟรี | ลงทุนไม่มีขั้นต่ำ | ค่าธรรมเนียมสุดพิเศษ | ฟรีโอนถึงสิ้นปี | ลงทุนได้ถึง 10 ประเทศ | เทรดหุ้นสหรัฐ 24 ชั่วโมง

📞เปิดบัญชีเลย คลิก https://www.thanachartsec.com/Content/Open%252520Account/22/th หรือ Contact center 02-779-9000

เทรดหุ้นนอกง่าย ตลอด 24 ชม. ด้วยแอป Think+ Global
👉 โหลดเลย https://microsite.thanachartsec.com/mobile-link/thanachart-think-plus-global