หุ้นสหรัฐฟื้นตัวเกือบทั่วถึง ยกเว้นเพียงกลุ่ม Healthcare ที่เริ่มมีแรงขายทำกำไร หลังปรับขึ้นสวนทางกลุ่มอื่นๆ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

เรื่องราวน่าสนใจ

1. แจ้งเตือนวันหยุดของตลาดหุ้นสหรัฐ

• เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล Thanksgiving วันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการทั้งวันและวันพรุ่งนี้จะเปิดทำการเพียงครึ่งวัน

2. ทรัมป์อาจประกาศชื่อประธาน Fed คนใหม่ ได้ก่อนคริสต์มาส + เปิดโพยผู้ผ่านการคัดเลือก

• เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง เพราะ เป็นการ “คาดการณ์” โดย Bessent ซึ่งเป็นคนสำคัญในทีมงานทรัมป์
• รายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้าย 5 คน โดย เรียงลำดับตามความ Dovish → Hawkish

i) Kevin Hassett: คนนี้ Pro-growth, pro-rate-cuts, dovish ชัดเจนที่สุด

ii) Rick Rieder CIO ตราสารหนี้ของ BlackRock: ไม่ได้ dovish มากเท่า Hassett แต่ถือว่าเอนไปทาง “ผ่อนคลาย” ยังคงให้ความสำคัญกับเสถียรภาพการเงินอยู่บ้าง

iii) Christopher Waller: ใจเป็นกลาง แต่โน้มไปทาง dovish ช่วงหลัง, เป็นหนึ่งในคนที่คาดเศรษฐกิจล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำในรอบก่อนๆ

iv) Michelle Bowman: รองประธานสายกำกับดูแล เน้นให้ความสำคัญกับเสถียรภาพระบบการเงิน ไม่สุดโต่ง แต่มักปรับท่าทีช้า

v) Kevin Warsh: มีประวัติ “hawkish” มาตั้งแต่ยุค 2006-2011

🔍 เรามองว่า Waller กับ Hassett มีโอกาสชนะใกล้เคียงกัน แต่ในระยะยาว Waller จะดีต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นมากกว่า

3. สรุปรายงาน Beige Book

• สำคัญ เพราะ เป็นรายงานภาวะเศรษฐกิจที่จัดทำโดย Fed ในรูปแบบที่ “เล่าเรื่องจากภาคธุรกิจจริง” ไม่ใช่ตัวเลขสถิติ และที่สำคัญกว่านั้นคือ มาในช่วงที่ข้อมูลเศรษฐกิจส่วนอื่นล่าช้าจากเรื่อง shutdown
• รอบนี้รายงานชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมปัจจุบันทรงตัว แต่มีแนวโน้มอ่อนแรงลง โดย สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ

i) การใช้จ่ายผู้บริโภคกำลังลดลงต่อเนื่อง

ii) ตลาดแรงงานอ่อนลงชัดเจน และอยู่ในโหมด “จ้างน้อย ไล่น้อย” โดย การจ้างงานมุ่งเน้นทดแทนพนักงานที่ลาออกมากกว่าการขยายการจ้าง แต่ธุรกิจ กลับหาคนได้ง่ายขึ้น บ่งบอกว่าความอ่อนแอของตลาดแรงงานมาจากฝั่ง Demand ไม่ใช่ปัญหาขาดแคลนคนเหมือนสองปีก่อน

iii) ธุรกิจถูกกดดันจากต้นทุนที่สูงขึ้นแต่ผลักภาระไปยังผู้บริโภคได้น้อยลง กดดันความสามารถในการทำกำไร

🔍 เรามองว่า ข้อมูลดังกล่าวช่วยยืนยันว่า ความเสี่ยงด้านการว่างงานกำลังมีน้ำหนักมากกว่าเงินเฟ้อ นักลงทุนควรติดตาม การประชุม Fed ในวันที่ 10 ธ.ค. ซึ่งจะมีการเผยแพร่ dot plot ที่จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางตลาดในอีกหลายเดือนข้างหน้า

🔍 สำหรับผู้ที่ต้องการปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับจังหวะตลาด สามารถติดตามรายงาน Wealth Strategy ผ่าน app. Think+

4. ความเข้าใจผิด “บางส่วน” เกี่ยวกับอนาคตของ Nvidia

• ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านหุ้น Nvidia ปรับฐานลงจาก ประเด็น AI ที่พัฒนาโดยชิปเฉพาะทาง ของ Google สามารถเอาชนะอดีตตัวท็อปที่ใข้ขิปของ Nvidia ได้สำเร็จ… ทำให้เกิดความกังวลว่า ธุรกิจของ Nvidia กำลังจะถูก “แทนที่” ด้วยชิปเฉพาะทาง
• เรามองว่า ในระยะยาวชิปเฉพาะทางไม่น่าจะแทนที่ชิป GPU ของ Nvidia ได้ทั้งหมด เพราะ

i) ชิปเฉพาะทาง (ASIC) ถูกออกแบบเพื่อเร่งงานเฉพาะด้านให้เร็วและได้ต้นทุนต่ำที่สุด จึงทำงานได้ดีในงานที่มีรูปแบบซ้ำๆ แต่จะไม่เหมาะกับงานที่หลากหลาย โดยเฉพาะ “งานสร้างโมเดล” ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง เพื่อรองรับ โครงสร้างของโมเดล (สถาปัตยกรรม) ที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ

ii) NVIDIA มี Ecosystem ที่ครบเครื่องที่สุด มีเครื่องมือช่วยพัฒนา AI ครบทุกรูปแบบ

iii) ชิป TPU ที่ดังในข่าว ถูกผูกติดกับโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะของ Google อย่างแยกไม่ออก
องค์กรที่จะใช้งานชิปดังกล่าว จะต้องที่มีทีมวิศวกรที่เก่งและได้ทำงานร่วมกันกับ Google มานานจึงจะสามารถใช้งานได้ (เช่น META)

🔍 เรามองว่า หากในอนาคตราคาหุ้น NVDA ลงมาในระดับที่น่าพอใจ เราก็จะกลับมาแนะนำอีกครั้ง ขณะที่ในช่วงนี้แนะนำ “ซื้อ” หุ้น AI จีน ผ่านกองทุน ✅MEGA10AICHINA-A

🌎Thanachart Global Investment
🌟 เพิ่มโอกาสในการลงทุนหุ้นนอกให้คุณง่ายกว่าเดิมกับ Thanachart Global Investment

เปิดบัญชีฟรี | ลงทุนไม่มีขั้นต่ำ | ค่าธรรมเนียมสุดพิเศษ | ฟรีโอนถึงสิ้นปี | ลงทุนได้ถึง 10 ประเทศ | เทรดหุ้นสหรัฐ 24 ชั่วโมง

📞เปิดบัญชีเลย คลิก https://www.thanachartsec.com/Content/Open%252520Account/22/th หรือ Contact center 02-779-9000

เทรดหุ้นนอกง่าย ตลอด 24 ชม. ด้วยแอป Think+ Global
👉 โหลดเลย https://microsite.thanachartsec.com/mobile-link/thanachart-think-plus-global