Global investment Mutual Funds 18 Sept 2025, 09:07

🌎 Global Update 💸 Fed ลังเล! นักลงทุนควรรับมือยังไง? จีนห้ามนำเข้าชิป Nvidia ดันธีมนวัตกรรมท้องถิ่นเด่น


ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ปิดแบบ “ครึ่งๆ กลางๆ” โดย หุ้นที่ขึ้นมีเพียงราว 45% ของตลาดเท่านั้น สะท้อนว่านักลงทุนยังไม่ค่อยมั่นใจในทิศทางตลาด ขณะเดียวกันหุ้นที่ outperform มี 2 พวก คือ หุ้น Defensive และกลุ่มธนาคารที่ได้อานิสงส์จากการที่ Fed ส่งสัญญาณว่า ปีหน้าจะ “ไม่รีบร้อน” ลดดอกเบี้ย

🔊เหตุการณ์สำคัญ

1. อ่านเกมส์ผลประชุม Fed เพื่อวางกลยุทธ์ลงทุนในระยะข้างหน้า

    • รอบนี้ลดดอกเบี้ย 0.25% ลงสู่ระดับ 4.25% เป็นไปตามที่ตลาดคาด ขณะที่ ภายในปีนี้จะลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก 2 ครั้ง และลดอีก 1 ครั้งในปีหน้า
    • พาวเวลล์เริ่มยอมรับว่า ตลาดแรงงานที่เป็นเสาหลักค้ำจุนเศรษฐกิจไว้ ปัจจุบันไม่ได้แข็งแกร่งอีกต่อไป โดยความต้องการแรงงานก็มีทิศทางอ่อนแอลง และอัตราการสร้างงานใหม่ก็ดูเหมือนจะต่ำกว่าระดับที่จำเป็น (break-even rate) ในการรักษาระดับอัตราการว่างงานให้คงที่แล้ว
    • นอกจากแรงกดดันจากตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแรงและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงเร็วขึ้นแล้ว Fed ยังต้องรับมือกับผลของกำแพงภาษี ที่กดดันทั้งความสามารถในการทำกำไรของภาคธุรกิจ และผลักดันเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่เหนือเป้าหมาย 2%… ด้วยเหตุนี้ Fed จึงลังเล-ไม่กล้าให้สัญญาณที่ชัดเจน ว่าจะโฟกัสจุดไหนดีระหว่าง “การพยุงเศรษฐกิจ” กับ “การควบคุมเงินเฟ้อ”
    • ความลังเล-ไม่ชัดเจน-ไม่รู้ควรทำตัวเช่นไร ของ Fed สะท้อนออกมาใน Dot Plot ซึ่งมี 2 ประเด็นที่ดูน่าสนใจ

    ประเด็นแรก ครั้งนี้ ดู “เสียงแตก” ออกไปเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจน โดยมีทั้งฝั่งที่ต้องการลดดอกเบี้ยเร็วๆ และฝั่งที่กังวลปัญหา “stagflation” (เศรษฐกิจโตช้าแต่เงินเฟ้อสูง)

    ประเด็นที่สอง เส้นทางดอกเบี้ยปี 2026 มีแนวโน้มลดช้ากว่าที่ตลาดเคยคาดไว้มากที่ประมาณ 0.5%

    📌 มุมมองต่อภาพรวม

    i) ในช่วงแรกหุ้นจะได้รับผลบวกจากการลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ภาพข้างหน้ายังดูวางใจไม่ได้เพราะการที่ Fed เลือกเดินเกมลดดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป และไม่กล้าส่งสัญญาณชัดเจนอย่างที่ตลาดคาดหวัง → ความไม่แน่นอนนี้ทำให้เกิดความเสี่ยงว่า Fed อาจ “ช้าเกินไป” ในการตอบสนองต่อเศรษฐกิจที่อ่อนแรงลง ผลลัพธ์คือ ความผันผวนของตลาดโดยรวมจะยังคงสูง และนักลงทุนต้องเตรียมรับมือกับการแกว่งแรงของสินทรัพย์เสี่ยงในระยะถัดไป

    ii) หุ้น Defensive อย่างกองทุน UGD และ ES-HEALTHCARE ดูน่าสนใจสำหรับการลงทุนในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนดังที่กล่าว

    iii) ตราสารหนี้คุณภาพ อย่างกองทุน K-GDBOND-A(A) จะถูกกดดันในระยะสั้น แต่ภาพระยะยาวยังคงมีมุมมองเชิงบวก คาดจะได้รับประโยชน์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็น “เกราะปกป้องพอร์ต” จากความเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะ Recession ใน 12 เดือนข้างหน้า

    iv) ในส่วนของ Economic Projection: เรามองว่า Fed อาจมีความเชื่อมั่นที่มากเกินไปต่อความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานและมีโอกาสที่ในอนาคต Fed จะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในเชิงรุกยิ่งขึ้น

    2. ทางการจีนสั่งห้ามนำเข้าชิปจาก Nvidia

      • หน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของจีน (CAC) ได้สั่งให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น Alibaba และ ByteDance ยกเลิกคำสั่งซื้อและหยุดทดสอบชิป RTX Pro 6000D ของ Nvidia ซึ่งเดิมชิปรุ่นนี้ Nvidia พัฒนาขึ้นมาเพื่อ “อ้อม” มาตรการห้ามส่งออกชิป AI ระดับสูงของสหรัฐฯ ไปยังจีน
      • เรื่องดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่า จีนต้องการเดินหน้ายุทธศาสตร์พึ่งพาตัวเองทางเทคโนโลยี ซึ่งจะกลายเป็นฐานรากสำคัญของการเติบโตระยะยาว เป็นบวกต่อภาพระยะยาวของหุ้นนวัตกรรมจีน อย่าง กองทุน ES-STARTECH และ ETF 3151 HK

      Thanachart Global Investment

      🌟 เพิ่มโอกาสในการลงทุนหุ้นนอกให้คุณง่ายกว่าเดิมกับ Thanachart Global Investment

      เปิดบัญชีฟรี | ลงทุนไม่มีขั้นต่ำ | ค่าธรรมเนียมสุดพิเศษ | ฟรีโอนถึงสิ้นปี | ลงทุนได้ถึง 10 ประเทศ | เทรดหุ้นสหรัฐ 24 ชั่วโมง

      📞เปิดบัญชีเลย คลิก https://cutt.ly/orJYNSv3 หรือ Contact center 02-779-9000

      เทรดหุ้นนอกง่าย ตลอด 24 ชม. ด้วยแอป Think+ Global
      👉 โหลดเลย https://onelink.to/p6g8w2