การเคลื่อนไหวของตลาดสหรัฐกลับทิศจากวันก่อนอย่างสิ้นเชิง จากวันก่อนที่ Defensive เด่น แต่เมื่อคืนกลับมาเห็น Tech กลับมานำตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะธีมความปลอดภัยทางไซเบอร์ดูโดดเด่นมาก BUG ETF พุ่งขึ้นถึง +2.8%

🔊เหตุการณ์สำคัญ

1. สรุปบทสัมภาษณ์ Jensen Huang ต่อ CNBC

• เสียดายที่ไม่ได้ลงทุนกับ xAI มากนัก เพราะเชื่อว่าโครงการของ Elon Musk มีศักยภาพสูง และมักจะกลายเป็นธุรกิจเปลี่ยนโลกได้เสมอ
• AI ไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็น Megatrend ความต้องการด้านการประมวลผล AI พุ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา วันนี้โมเดล AI ไม่ได้หยุดอยู่ที่การ “ตอบคำถาม” แต่เริ่ม ใช้เหตุผล ทำวิจัย และใช้เครื่องมือได้จริง จนกลายเป็นสิ่งที่ทั้ง “จำเป็น” และ “ทำเงิน”
• โลกกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ ยุค buildout มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และ NVIDIA ก็คือหัวใจของระบบนี้ ด้วยการสร้าง ecosystem ครบวงจร ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ไปจนถึง data center infrastructure
• Nvidia ใช้งาน AI จริง ไม่ใช่แค่โฆษณาขายของ ทุกวิศวกรของ NVIDIA ใช้ AI assistant ในการทำงาน และ productivity ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• สหรัฐไม่ได้ทิ้งห่างจีนด้าน AI อย่างที่หลายคนคิด แถมจีนยังมีจุดแข็งในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ซึ่งถือเป็น “เชื้อเพลิง” สำคัญของศูนย์ข้อมูล AI ในอนาคต
• ดีล AMD-OpenAI ดูน่าสนใจและน่าประหลาดใจ
  การที่ AMD เสนอหุ้น 10% ให้ OpenAI เป็นไอเดียที่ “สร้างสรรค์และเซอร์ไพรส์” แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า การให้หุ้นก่อนที่สินค้าจะพร้อมจริงๆ บ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่สูง ขณะที่ NVIDIA เลือกที่จะเดินเกมต่างออกไป คือสร้างเทคโนโลยีที่พิสูจน์ได้จริง และค่อยๆ ขยาย ecosystem ให้มั่นคง

2. สรุปใจความ FOMC Minutes

• สิ่งที่สะท้อนชัดคือ รอบนี้กรรมการมี “ความเห็นต่างภายใน” (divergence of views) มากกว่าที่ตลาดคาด ในเรื่องที่เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
• กรรมการถูกแบ่งเป็น 2 ฝั่ง

i) ฝั่งระมัดระวัง (Dovish side)
มองว่าเศรษฐกิจเริ่มแผ่วชัดเจน ทั้งตลาดแรงงานที่ชะลอตัวและความเสี่ยงด้านการว่างงานที่สูงขึ้น จึงเชื่อว่าการลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอลงแรงเกินไป

ii) ฝั่งเข้มงวด (Hawkish side)
ยังคงกังวลว่าเงินเฟ้อแม้จะชะลอ แต่ยังอยู่เหนือเป้าหมาย 2%, เน้นว่าแรงกดดันจากค่าแรง ราคาพลังงาน และมาตรการทางการค้า (เช่นภาษีนำเข้า) อาจทำให้เงินเฟ้อกลับมาร้อนแรงได้ จึงไม่ต้องการส่งสัญญาณผ่อนคลายเร็วเกินไป เพราะเกรงว่าตลาดจะตีความว่า Fed ยอมแพ้กับเงินเฟ้อ

• ความเห็นที่แตกต่างภายใน FOMC สะท้อนว่า Fed กำลังอยู่ใน “โซนไม่แน่ชัด” ว่าจะเดินหน้าลดดอกเบี้ยเร็วหรือช้าเพียงใด ซึ่งทำให้ทิศทางนโยบายการเงินข้างหน้าขาดความชัดเจน

ประเด็นนี้อาจกลายเป็นตัวจุดชนวนความผันผวน ให้กับทั้งตลาดพันธบัตร ค่าเงิน และตลาดหุ้น เพราะนักลงทุนไม่สามารถคาดการณ์เส้นทางดอกเบี้ยได้เหมือนในช่วงก่อนหน้า ดังนั้น นักลงทุนควรจับตาข้อมูลเศรษฐกิจโดยเน้นที่ CPI 15 ต.ค. และตัวเลขตลาดแรงงานที่จะประกาศมาหลังจบ Shutdown ขณะเดียวกันควรเน้นกระจายการลงทุน เพื่อให้พอร์ตทนทานต่อความผันผวนที่อาจเร่งตัวขึ้น (ดู Wealth Strategy 8 ต.ค.)

3. ทรัมป์ประกาศข้อตกลงสันติภาพระยะแรกระหว่างอิสราเอล-ฮามาส โดยมีผลหยุดยิงทั่วฉนวนกาซาตั้งแต่ 9 ต.ค. เป็นต้นไป

• ใจความคือ ฮามาสจะปล่อยตัวประกันทั้งหมด-พร้อมกับคืนร่างผู้เสียชีวิต และอิสราเอลจะปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ และถอนกำลังทหารไปยังเส้นแบ่งที่ตกลงกันไว้
• หลังบรรลุข้อตกลง ฮามาสยังออกแถลงการณ์เชิงบวกต่อทรัมป์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
• ข้อตกลงครั้งนี้ถือเป็น “จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่” ในสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี แต่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า หลังจากนี้ทั้งสองฝ่ายจะสามารถหาข้อสรุป ประเด็นปลดอาวุธและโครงสร้างการปกครองใหม่ ได้จริงหรือไม่

🌎Thanachart Global Investment
🌟 เพิ่มโอกาสในการลงทุนหุ้นนอกให้คุณง่ายกว่าเดิมกับ Thanachart Global Investment

เปิดบัญชีฟรี | ลงทุนไม่มีขั้นต่ำ | ค่าธรรมเนียมสุดพิเศษ | ฟรีโอนถึงสิ้นปี | ลงทุนได้ถึง 10 ประเทศ | เทรดหุ้นสหรัฐ 24 ชั่วโมง