DeepSeek แชท AI สัญชาติจีนที่น่าจับตากลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ Chatgpt โดยมีความสามารถในการประมวผลที่รวดเร็วและต้นทุนที่ต่ำกว่า พร้อมประสิทธิภาพที่เด่นกว่าในหลายด้าน เช่น การคำนวณทางคณิตศาสตร์, แชทบอท, การแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันโดยที่ไม่ต้องใช้ชิปที่แพง นอกจากนี้ยังเป็นโมเดลแบบ Open Source ที่สามารถใช้งานได้ฟรี และให้นักพัฒนาออกแบบต่อยอดได้เอง ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้ระบบพัฒนาได้เร็ว

ด้วยความก้าวหน้าทางด้าน AI จีนที่ใช้ต้นทุนต่ำ กดดันใช้หุ้นชิป รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ปรับตัวลดลงทั่วโลก รวมถึง DELTA ซึ่งเรามองว่ายังเร็วไปที่จะสรุปความสำเร็จของ DeepSeek และ GPU H800 ที่ใช้ใน DeepSeek ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายประการ

1. GPU H800 ของ DeepSeek ทำงานได้ดีสำหรับระบบขนาดเล็ก และยังไม่เสถียรเมื่อรองรับผู้ใช้หลายพันคน
2. การฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ของ GPU H800 ต้องใช้เวลาฝึกนานกว่า GPU H100 ที่ใช้ใน Chatgpt ถึง 30% ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมสูงขึ้น
3. ไม่สามารถประหยัดต้นทุนเริ่มต้นได้ สำหรับงานขนาดใหญ่ เนื่องจาก GPU H800 ใช้พลังงานเกิน GPU H100 ถึง 20% สำหรับงานประเภทเดียวกัน ซึ่ง Data Center ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่อลดต้นทุน
4. อายุการใช้งานของ GPU H800 สั้นกว่า GPU H100 ภายใต้ปริมาณงานจำนวนมาก