Siam Senses – จุดเลือกหุ้นซื้อ

SET ทำสถิติต่ำสุดใหม่หลังโควิด แม้มีหลายบริษัทใหญ่ที่มีประเด็นที่ยังจะไม่ฟื้นตัวเร็วๆนี้ แต่ SET ณ จุดนี้มีหุ้นหลายตัวที่เริ่มให้ผลตอบแทนคุ้มค่าความเสี่ยง Siam Senses ฉบับนี้นำเสนอหุ้นที่น่าสนใจเพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุน
หุ้นใหญ่ทำ SET สวนทางเศรษฐกิจ
แม้การเติบโตของ GDP มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ SET กลับลดลงจนทำสถิติต่ำสุดใหม่หลังการระบาดของ COVID-19 หนึ่งในเหตุผลสำคัญมาจากปัญหาในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งได้แก่ ภาวะตกต่ำอย่างมากของกลุ่มพลังงาน (13% ของมูลค่าตลาดรวม), ความเสี่ยงด้านนโยบายในกลุ่มสาธารณูปโภค (7%), โครงการขนาดใหญ่ที่มีปัญหาของ SCC (1%) และ TOP, การลงทุนใน Happitat ของ CPAXT (2%), การศึกษาการเข้าซื้อกิจการ Seven & i ของ CPALL (3%), การชำระเงินให้ AOT ที่ล่าช้าของคิง พาวเวอร์ (4%) และความกังวลด้านต้นทุนของ DELTA (9%) ส่วนปัจจัยทางเศรษฐกิจ แม้ว่า GDP ยังอยู่ในแนวโน้มฟื้นตัว แต่มีสองปัจจัยอุปสรรค คือ ตลาดสินเชื่อที่ตึงตัวและยังไม่ได้รับการปลดล็อค และความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของทรัมป์
การประเมินมูลค่าใหม่
เนื่องจากปัญหาหลายประการในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ข้างต้น ซึ่งคิดเป็น 39% ของมูลค่าตลาดของ SET การฟื้นตัวกลับไปสู่ valuation ระดับเดิมๆ นั้นยังไม่น่าเป็นไปได้ ค่าเฉลี่ย PE ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอยู่ที่ 18 เท่า อย่างไรก็ตาม เรามองว่า SET ปัจจุบันที่ 1,246 หรือ PE ที่ 13.4/12.2 เท่า ในปี 2025-26F ถือว่าเป็นระดับต่ำมากแล้ว และหลังเราปรับลดประมาณการกำไรของกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค และให้ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สูงขึ้นของ CPAXT และ CPALL เราปรับลดดัชนี SET เป้าหมายปี 2025F ลงเหลือ 1,430 จุด (จาก 1,580 จุด) ซึ่งสะท้อน PE ที่ 15.5 เท่า ในปี 2025F นอกจากนี้เรายังได้แสดงมูลค่าของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมในบทวิเคราะห์นี้ด้วย
แนวโน้มอุตสาหกรรม
หลังประเมินมูลค่าใหม่ เรายังคงมองลบต่อกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค เนื่องจากแนวโน้มอุตสาหกรรมยังคงอ่อนแอ เรายังมองลบต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้าง, สื่อบันเทิง และอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยเหตุผลเดียวกัน ในทางกลับกัน เราชอบกลุ่มโทรคมนาคมที่มีการดำเนินงานเป็นไปได้ดีทั้งในแง่รายได้และประโยชน์ด้านต้นทุนจาก synergies จากการควบรวมกิจการ เราชอบกลุ่ม สถาบันการเงิน (finance) เนื่องจากมูลค่าที่ลดลงแล้ว ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อกลับมา เรามีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่แข็งแกร่ง และราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น เราชอบกลุ่มโรงพยาบาลและโรงแรม เนื่องจากแนวโน้มความต้องการที่เติบโตแบบ mega trend เรามีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกบางตัว ท่ามกลางเหตุการณ์ CPAXT/ CPALL เรามีมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มธนาคาร เนื่องจากราคาหุ้นปรับขึ้นมากกว่าตลาดแล้วจากการจ่ายปันผลและการซื้อหุ้นคืน แต่จากภาพรวมของหุ้นใหญ่หลายๆ ตัวที่มีปัญหา ทำให้ธนาคารยังดูน่าสนใจอยู่ เรามีมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เนื่องจากมีมูลค่าที่ต่ำ แต่แนวโน้มของอุตสาหกรรมยังคงอ่อนแอ
หุ้นที่ดูน่าสนใจ
เราได้เปลี่ยนหุ้น Top Picks ของเรา 3 ตัว โดยแทนที่ CPALL, CENTEL และ BH ด้วย CPAXT, MOSHI และ SAWAD และนอกเหนือจากหุ้น Top Picks ของเรา เราได้แนะนำหุ้นอื่นๆ ที่ดูน่าสนใจหลังการประเมินมูลค่าใหม่ ซึ่งแสดงใน Exhibit 20
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……