ภาษีตอบโต้ของทรัมป์ ได้สร้างแรงกดดันต่อ Index Future ของหุ้นสหรัฐฯ อาทิ S&P500 -3%, Nasdaq 100 -3.7%, Russel 2000 -4.5%

📍 Key Events

ทรัมป์เปิดรายละเอียดภาษีตอบโต้ ศึกการค้ารอบใหม่เริ่มต้นแล้ว?

1. สาระสำคัญ:

• ทรัมป์ประกาศว่า ตั้งแต่ 5 เมษายน จะเริ่มเก็บภาษีขั้นพื้นฐาน 10% กับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศและตั้งแต่ 9 เมษายน ก็จะจัดเก็บภาษีสำหรับรายประเทศ ทั้งหมด 60 ประเทศ (ไม่ใช่ 15) โดยอิงจากระดับของอุปสรรคทางการค้าที่มีต่อสินค้าสหรัฐฯ
• สำหรับภาษีเพิ่มเติมเฉพาะในรายประเทศ ถูกแบ่งเป็น
  กลุ่มที่โดนหนัก: เวียดนาม 46%, ไทย 36%, จีน 34%, ไต้หวัน-อินโดฯ 32%, สวิสฯ 31%, แอฟริกาใต้ 30%
  กลุ่มที่โดนปานกลาง: อินเดีย 26%, เกาหลี 25%, ญี่ปุ่น-มาเลเซีย 24%, สหภาพยุโรป 20%
  กลุ่มที่โดนเบา: อิสราเอล-ฟิลิปปินส์ 17%. UK-บราซิล-สิงคโปร์-ตุรกี-ยูเครน-ปานามา 10%

2. รายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจ

• ในเบื้องต้นแคนาดาและเม็กซิโกได้รับการยกเว้นภายใต้ข้อตกลง USMCAแต่ยังโดนภาษี 25% ที่เชื่อมโยงกับเรื่องยาเสพติดและการอพยพผิดกฎหมายอยู่
• สินค้าบางรายการจากอุตสาหกรรมหลัก เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม ยานยนต์ ทองแดง ยา เซมิคอนดักเตอร์ ไม้แปรรูป ได้รับการยกเว้นจากภาษีรอบนี้ โดยจะถูกจัดเก็บภาษีตามอัตราที่ได้กำหนดไว้แล้ว หรือตามที่ทรัมป์จะกำหนดในเร็ว ๆ นี้
• สินค้าที่โหลดขึ้นยานพาหนะขนส่งแล้ว และอยู่ระหว่างการขนส่ง (in transit) ก่อนวันบังคับใช้ภาษี จะ “ไม่ถูกยกเว้นภาษี” อีกต่อไปทำให้ผู้นำเข้าที่สั่งสินค้าไว้ล่วงหน้า ไม่มีโอกาสหลีกเลี่ยงภาษีใหม่โดยอาศัยช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน

3. ข้อสังเกตต่อเทคนิคการเจรจาของทรัมป์
การเรียกร้องในลักษณะดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับ รูปแบบการเจรจา 7 ขั้นตอน ในอดีตของทรัมป์ ดังนี้
✅- เปิดฉากด้วยข้อเรียกร้องเวอร์ๆ เกินจริง จนดูไร้สาระ!
✅- ข่มขู่!

• ชกปาก! เมื่อถูกสงสัยว่าจะทำจริงมั้ย ก็ทำเลย!
• สร้างสัมพันธ์! แสดงน้ำใจและความใจกว้าง
• ทิ้งเจ้าสาวไว้ที่แท่นวิวาห์! ก่อนจะเซ็นข้อตกลงเพียงนิดเดียว… ก็โกรธจนคลั่ง แล้วล้มโต๊ะ!
• คืนดี! กลับไปนั่งเจรจาใหม่อีกครั้ง
• ปิดดีล! และเคลมผลงาน

4. มุมมองของเราต่อภาพรวม
🔥 – อัตราภาษีดังกล่าวถือว่าเป็นระดับที่ “รุนแรงกว่าที่ตลาคคาดมาก” อย่างไรก็ดี “ยังมีพื้นที่สำหรับการเจรจา” เนื่องจาก
ภาษีที่ประกาศถือเป็นเพดานสูงสุด โดยอยู่บนสมมุติฐานว่าจะไม่มีการตอบโต้

• การแปลงอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษีให้เป็นตัวเลขเชิงปริมาณนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีความไม่แน่นอนสูง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะถูกประเมินค่าแบบ “สุดโต่ง-สูงเกินความเป็นจริง” โดยเฉพาะเมื่อถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความได้เปรียบในการเจรจาต่อรองทางการค้า
• ทีมงานทรัมป์มีระยะเวลาจำกัดในการวิเคราะห์ประเทศคู่ค้ากว่า 60 ประเทศ จึงเป็นไปได้ว่าการพิจารณาอาจไม่ครอบคลุมกรณีล่าสุด เช่น อินเดีย-เวียดนาม ที่เพิ่งประกาศลดภาษีนำเข้า ซึ่งอาจยังไม่ทันได้รับการประเมิน/สะท้อนในมาตรการตอบโต้ที่ประกาศออกมา

🔥 – เส้นทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แม้จะมีโอกาสเจรจาทางการค้า แต่ทรัมป์อาจมีเวลา “ไม่ถึง 1 ปี” ในการหาข้อตกลง ก่อนที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเริ่มชัดเจนขึ้น และส่งผลต่อบรรยากาศก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในสถานการณ์แบบนี้ เราแนะนำให้ลงทุนแบบระมัดระวัง และกระจายความเสี่ยงไปในหลายสินทรัพย์ โดยเฉพาะตราสารหนี้คุณภาพดี อย่างกองทุน UGIS-N ซึ่งมีผู้จัดการกองทุนคอยปรับพอร์ตตามจังหวะตลาด เพื่อรักษาโอกาสและลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดผันผวน

5. เวียดนามน่ากังวลหรือไม่?

หุ้นเวียดนามจะเผชิญกับ “ความผันผวนที่สูง” ในช่วงนี้ เนื่องจากถูกเก็บภาษีตอบโต้ในระดับที่สูงแต่ด้วยบทบาททางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ทำให้เวียดนามมี “แต้มต่อ” ที่เพียงพอจะใช้ในการเจรจาลดแรงกดดัน และ มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงผ่อนปรนกับสหรัฐฯในระยะถัดไป เนื่องจาก

🔍 เวียดนามมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทสหรัฐฯ
บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น Apple, Intel, Dell, Google ฯลฯ ได้ย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังเวียดนาม เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์หากเก็บภาษีเวียดนามในอัตราสูง ต้นทุนของบริษัทสหรัฐฯ เองจะเพิ่มขึ้น และอาจกระทบราคาสินค้าผู้บริโภคในประเทศ

🔍 เวียดนามมีแหล่ง “แร่ธาตุหายาก” (Rare Earths) ที่สหรัฐฯ ต้องการ
เวียดนามถูกจัดอยู่ใน อันดับที่ 2 ของโลก ในด้านปริมาณสำรองแร่ธาตุหายาก รองจากจีนแร่เหล่านี้มีความสำคัญต่อเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น แบตเตอรี่, รถยนต์ไฟฟ้า, อาวุธ, และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในบริบทที่สหรัฐฯ ต้องการลดการพึ่งพาจีน เวียดนามจึงกลายเป็น แหล่งทรัพยากรทางยุทธศาสตร์ ที่ทรัมป์ไม่สามารถมองข้ามได้

🔍 เวียดนามเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ ในอัตราที่ต่ำกว่า ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากเวียดนามซึ่งจะกลายเป็น “ช่องสำหรับการเจรจา” หากเวียดนามยินดีปรับโครงสร้างอุปสรรคทางการค้าในด้านอื่นๆ

🔍 เวียดนามเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์ในภูมิภาคในบริบทภูมิรัฐศาสตร์ อินโด-แปซิฟิก เวียดนามถือเป็นพันธมิตรที่มีบทบาทถ่วงดุลจีนสหรัฐฯ จึงมีแรงจูงใจที่จะรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกกับเวียดนามในระยะยาว

🔍 เวียดนามมีเครื่องมือในการต่อรองที่เป็นรูปธรรมเวียดนามสามารถเสนอ “สิ่งตอบแทน” ในการเจรจา เช่น: เปิดเสรีทางการค้าในบางหมวด, เพิ่มคำสั่งซื้อจากบริษัทสหรัฐฯ, ร่วมมือในด้านความมั่นคงในภูมิภาค, การควบคุมแร่ธาตุหายากอย่างมีกลยุทธ์ร่วมกับสหรัฐฯ

🔍เวียดนามมักมีท่าทีประนีประนอม
เวียดนามมีประวัติการตอบสนองเชิงบวกต่อแรงกดดันทางการค้า เช่น เคยปรับอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีในอดีต เพื่อหลีกเลี่ยงข้อพิพาท

Thanachart Global Investment

🌟ก้าวสู่การเป็นเจ้าของหุ้นชั้นนำระดับโลกใน 10 ประเทศ ได้แล้ววันนี้
⛔️ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน
📱เทรดผ่านระบบซื้อขายเดียวตลอด 24 ชม.
✅ฟรีค่าธรรมเนียมโอนเงินไป-กลับ
🇺🇸 เป็นเจ้าของหุ้นสหรัฐเงินลงทุนเริ่มต้นหลักร้อย ผ่านการซื้อขายแบบเศษหุ้นได้ (US fractional shares)
🇺🇸 บริการยื่นภาษีสหรัฐ เพียง 1,000 บาท ใช้บริการถึงสิ้นปี 2568

🌟คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://global-investment.thanachartsec.com/

📱 โหลดเลย Think+ global app เทรดได้ง่ายๆตลอด 24 ชม
https://microsite.thanachartsec.com/mobile-link/thanachart-think-plus-global
📞สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือ Contact center 02-779-9000