แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันศุกร์ แต่ก็ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจ

📌 Key Events

1. จีนจัดแข่งฮาล์ฟมาราธอนสำหรับหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ครั้งแรกของโลก ที่ E-Town ศูนย์เทคโนโลยีทางตอนใต้ของปักกิ่ง

• การแข่งขันดังกล่าวแสดงถึงความทะเยอทะยานและการผลักดันอย่างจริงจังของรัฐบาลจีนต่อนวัตกรรมต่างๆ อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเซมิคอนดักเตอร์
• สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นนวัตกรรมจีน สามารถลงทุนผ่านบริษัท อาทิ

I) Xiaomi (1810 HK)

บริษัทเป็นหนึ่งในนักลงทุนร่วม ของสถาบันวิจัย X-Humanoid ซึ่งพัฒนา Tiangong Ultra หุ่นยนต์ที่ชนะการแข่งขันนี้, บริษัทกำลังลงทุนอย่างจริงจังในเทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อขยายอาณาจักรจากสมาร์ทโฟนไปสู่การเป็น “AIoT ecosystem” (AI + Internet of Things)

II) EHang (EH US)

บริษัทผู้ผลิต Taxi บินได้ไร้คนขับ ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากองค์การบริหารการบินพลเรือนของจีน (CAAC) แล้ว

III) XPeng (9868 HK)

กำลังพัฒนารถยนต์บินได้ อาทิ Voyager X2 ที่ผ่านการทดสอบบินในดูไบและได้รับใบอนุญาตการบินอย่างเป็นทางการ

IV) SMIC (0981 HK)

โรงงานผลิตชิป (foundry) รายใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์การพึ่งพาตัวเองด้านเทคโนโลยี

2. ประเด็นเรื่องสงครามการค้า

• ทรัมป์มีการโพสท์ถึง “การโกง” ด้วยอุปสรรคการค้าในรูปแบบต่างๆ
• ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ในประเทศ เพื่อใช้เป็นข้อตกรองกับทรัมป์
• เจดี แวนซ์ (เด็กปั้นของทรัมป์) เยือนอินเดีย เพื่อหารือเรื่องผลักดันให้อินเดียเป็นผู้นำของกลุ่มประเทศโลกใต้ (Global South)

มุมมองของเรา

• เรื่องการเจรจาการค้ายังมีความไม่แน่นอนสูงและมีโอกาสยืดเยื้อ จึงยังคงเน้นกลยุทธ์ลงทุนอย่างระมัดระวังต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม
• ญี่ปุ่นมีโอกาสสูงที่เจรจากับสหรัฐฯสำเร็จ เนื่องจากเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ขณะที่ เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นญี่ปุ่นในระยะยาว

🔥สำหรับการลงทุนในช่วงนี้ หุ้นอินเดียดูเป็นตลาดที่น่าสนใจกว่าที่อื่นๆ แนะนำลงทุนผ่านกองทุน ES-INDAE

I) มองการมาเยือนของทีมงานทรัมป์ในช่วงเวลาเช่นนี้ สะท้อนถึงความสัมพันธ์และความสำคัญของอินเดียต่อยุทธศาสตร์สหรัฐฯได้เป็นอย่างดี
… ขณะเดียวกัน อินเดียก็มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับทุกฝ่าย เป็น “ตัวเลือกกลาง” ที่ทุกฝ่ายอยากคบ

II) เศรษฐกิจอินเดียพึ่งพาการส่งออกจำกัด และขับเคลื่อนการเติบโตด้วยปัจจัยภายใน อาทิ สังคมเมืองที่ขยายตัว-การปฏิรูปกฎเกณฑ์-แปรรูปรัฐวิสาหกิจ-การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

III) นโยบายการเงินของอินเดียมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปี เอื้อไปในทางสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจยิ่งขึ้น

IV) อินเดียได้รับประโยชน์จาก US$ อ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ประเทศนำเข้าอย่างอินเดีย ได้ประโยชน์จากต้นทุนนำเข้าที่ถูกลง ซึ่งจะลดแรงกดดันเงินเฟ้อ เปิดทางให้ธนาคารกลางลดดอกเบี้ยได้สะดวกยิ่งขึ้น,
นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมเสถียรภาพบัญชีเดินสะพัด เพิ่มความมั่นใจต่อตลาดทุนของนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย

V) บริหารโดย Hiren Dasani ที่เข้าใจเรื่องราวภายในอินเดียเป็นอย่างดี และดูแลกองทุนหลักมาตั้งแต่ช่วงจัดตั้ง

🗓️ เหตุการณ์สำคัญประจำสัปดาห์

อ. แถลงการณ์ของประธาน ECB

พ. Flash PMI ของญี่ปุน ยุโรป สหรัฐฯ

พฤ. คำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ

ศ. เงินเฟ้อญี่ปุ่น

🌟 เพิ่มโอกาสในการลงทุนหุ้นนอกให้คุณง่ายกว่าเดิมกับ Thanachart Global Investment

เปิดบัญชีฟรี | ลงทุนไม่มีขั้นต่ำ | ค่าธรรมเนียมสุดพิเศษ | ฟรีโอนถึงสิ้นปี | ลงทุนได้ถึง 10 ประเทศ | เทรดหุ้นสหรัฐ 24 ชั่วโมง

📞เปิดบัญชีเลย คลิก https://bit.ly/3Q679OY หรือ Contact center 02-779-9000

เทรดหุ้นนอกง่าย ตลอด 24 ชม. ด้วยแอป Think+ Global
👉 โหลดเลย https://onelink.to/p6g8w2