🌍 Global Update หุ้น US ร่วงแรง! ทรัมป์กดดัน Fed – Tradewar เริ่มเดือด! แต่โอกาสยังมี แนะนำ “ซื้อ” กองทุน UGIS-N และ ES-INDAE
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลงอย่างทั่วถึง โดย S&P500 -2.4%, Nasdaq -2.6%
📌 Key Events
1. ข้อสังเกตต่อการปรับฐานในรอบนี้
- รอบนี้แรงขายลามไปยังหุ้นเล็กและหุ้น defensive ขณะที่ US$ ก็อ่อนค่าแรง, ตราสารหนี้สหรัฐฯ ก็ถูกขายด้วย
- แต่ ETF ของหุ้นนอกสหรัฐฯ กลับไม่ได้อ่อนแอเท่า โดยเฉพาะ หุ้นจีน (MCHI ETF) ที่ปรับขึ้นสวนทาง
👀 มุมมองของเรา
- สาเหตุของแรงขายในช่วงนี้ คือ นักลงทุนไม่มั่นใจทรัมป์ในเรื่องนโยบายการค้าและท่าทีแทรกแซง Fed
- สำหรับหุ้นสหรัฐฯเรายังคงมุมมอง “Underweight” ต่อไป เนื่องจาก Valuation ของหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมยังไม่น่าสนใจ, รอบนี้ S&P500 เพิ่งปรับลงเพียง -17% ขณะที่ ใน Bear Market โดยปกติปรับลงเฉลี่ยที่ -27 ถึง -29%
🔍 – แม้ภาพรวมดัชนี S&P 500 ยังไม่น่าสนใจ… แต่หุ้นรายตัวหลายบริษัท Valuation ดูน่าสนใจสำหรับพิจารณาเริ่มสะสมเพื่อการลงทุนระยะยาว
อาทิ MU US, NVDA US, QCOM US, FSLR US, UNH US เป็นต้น
🔍 – สำหรับตราสารหนี้คุณภาพ เรายังคง “Overweight” โดยแนะนำลงทุนผ่านกองทุน UGIS-N เนื่องจาก
I) ตราสารหนี้สหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงในรอบ 10 ปี ดูน่าสนใจเมื่อเทียบกับ Earning Yield ของหุ้น
II) ภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว จนอาจเกิด recession ในท้ายที่สุดจะเอื้อให้ Fed ลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น หนุนราคาตราสารหนี้
III) มองการเทขายตราสารหนี้สหรัฐฯ รอบนี้ เป็นเพียง “ชั่วคราว” เพราะ ไม่มีตลาดตราสารหนี้ใดที่ ใหญ่-สภาพคล่องสูง-โปร่งใส เท่าสหรัฐฯ ขณะที่ ทรัมป์ก็มีโอกาสเปลี่ยนท่าทีในอนาคต เนื่องจากแรงกดดันจากตลาดการเงินและความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
IV) กองทุนหลักเป็นมืออาชีพที่ไว้ใจได้ มีการปรับกลยุทธ์ตามจังหวะตลาด พิสูจน์ด้วยผลงานที่ผ่านการพิสูจน์มาอย่างยาวนาน (ดู Wealth Strategy 2Q25)
2. จีน-อินเดีย: คู่รักคู่กัดแห่งเอเชีย ล่าสุดเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
- จีนขู่จะตอบโต้ทุกประเทศที่ร่วมมือกับสหรัฐ ในลักษณะที่กระทบต่อผลประโยชน์ของจีน
- หลังจากนั้นไม่นาน อินเดียได้เริ่มใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีชั่วคราวที่ 12% กับผลิตภัณฑ์เหล็กบางประเภท
- ด้านทำเนียบขาว ก็ระบุว่าการเจรจากับอินเดีย “คืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” และได้เงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการเจรจาแล้ว
👀 มุมมองของเรา
- ไทยและกลุ่มประเทศ China +1 มีความเสี่ยงที่จะถูกบีบให้เลือกข้าง
อย่างไรก็ดี สำหรับหุ้นไทยเรามองเห็นโอกาส “เลือกซื้อ” ในบริษัทที่มีกระแสเงินสดแข็งแรง-ได้รับผบกระทบจาก Tariff จำกัด แต่ราคาหุ้นได้ปรับลดลงมามากแล้ว - มาตรการเก็บภาษีสินค้าเหล็กของอินเดีย ไม่ใช่แนวคิดใหม่ แต่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2024
เพื่อเอามาใช้ป้องกันการทุ่มตลาดโดย จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น (ไม่ใช่แค่จีนที่โดน)
🔍 – ในช่วงนี้หุ้นอินเดียดูเป็นตลาดที่น่าสนใจกว่าที่อื่นๆ แนะนำลงทุนผ่านกองทุน ES-INDAE
I) มองการมาเยือนของทีมงานทรัมป์ในช่วงเวลาเช่นนี้ สะท้อนถึงความสัมพันธ์และความสำคัญของอินเดียต่อยุทธศาสตร์สหรัฐฯได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน อินเดียก็เป็น “ตัวเลือกกลาง” ที่ทุกฝ่ายอยากคบ
II) เศรษฐกิจอินเดียพึ่งพาการส่งออกจำกัด และขับเคลื่อนการเติบโตด้วยปัจจัยภายใน อาทิ สังคมเมืองที่ขยายตัว-การปฏิรูปกฎเกณฑ์-แปรรูปรัฐวิสาหกิจ-การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
III) นโยบายการเงินของอินเดียมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปี เอื้อไปในทางสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจยิ่งขึ้น
IV) อินเดียได้รับประโยชน์จาก US$ อ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนนำเข้าถูกลง ซึ่งจะลดแรงกดดันเงินเฟ้อ เปิดทางให้ธนาคารกลางลดดอกเบี้ยได้สะดวกยิ่งขึ้น, นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมเสถียรภาพบัญชีเดินสะพัด เพิ่มความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย
V) บริหารโดย Hiren Dasani ที่เข้าใจเรื่องราวภายในอินเดียเป็นอย่างดี และดูแลกองทุนหลักมาตั้งแต่ช่วงจัดตั้ง
Thanachart Global Investment
🌟ก้าวสู่การเป็นเจ้าของหุ้นชั้นนำระดับโลกใน 10 ประเทศ ได้แล้ววันนี้
⛔️ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน
📱เทรดผ่านระบบซื้อขายเดียวตลอด 24 ชม.
✅ฟรีค่าธรรมเนียมโอนเงินไป-กลับ
🇺🇸 เป็นเจ้าของหุ้นสหรัฐเงินลงทุนเริ่มต้นหลักร้อย ผ่านการซื้อขายแบบเศษหุ้นได้ (US fractional shares)
🇺🇸 บริการยื่นภาษีสหรัฐ เพียง 1,000 บาท ใช้บริการถึงสิ้นปี 2568
🌟คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://global-investment.thanachartsec.com/
📱 โหลดเลย Think+ global app เทรดได้ง่ายๆตลอด 24 ชม
https://microsite.thanachartsec.com/mobile-link/thanachart-think-plus-global
📞สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือ Contact center 02-779-9000