Equity Market Strategy 5 Nov 2025, 16:35

Siam Senses  – ยังพอมีแรงส่ง


หลังฟื้นตัวแข็งแกร่งจากจุดต่ำสุดในช่วงกลางปี โดยได้แรงหนุนจากหลายปัจจัย และเรามองว่า SET จะปรับขึ้นไปอีกได้ถึง 1,380 ในปี 2026F จากผลของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม การที่ SET จะไปต่อไกลๆ จำต้องมีรัฐบาลใหม่ที่แข็งแรงเพียงพอที่จะใช้นโยบาย reform ระบบเศรษฐกิจ

นโยบายภาครัฐผลักดัน SET ต่อเนื่องไปถึง 1Q26F

ดัชนี SET ฟื้นตัวแข็งแกร่งจากจุดต่ำสุดในช่วงกลางปี โดยได้แรงหนุนจากหลายปัจจัย ได้แก่ การเปลี่ยนรัฐบาล นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัญหาภาษีสหรัฐฯที่คลี่คลายลง การผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2026 และท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้นของผู้ว่าการธปท. เราคาดว่า SET ใน 4Q25-1Q26F จะยังคงได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากนโยบายดังนี้ 1) นโยบายการคลังที่ผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในช่วงปลาย 1Q26F ซึ่งน่าจะทำให้มีปริมาณเงินหมุนเวียนและกิจกรรมการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 2) ผลของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวม 100 bps ตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา จะเริ่มส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะมีการปรับลดเพิ่มเติมอีก 2 ครั้ง จนถึงระดับ 1.00% และ 3) รัฐบาลเดินหน้าผลักดันโครงการพลังงานทดแทนมากขึ้น พร้อมทั้งลดราคาพลังงานและไฟฟ้า เรายังคงดัชนี SET เป้าหมายไว้ที่ 1,350 ใน 4Q25F และให้เป้าหมายปี 2026F ที่ 1,380  ซึ่งมีโอกาสถึงได้ภายใน 1Q26F

ไม่มีอำนาจที่เข้มแข็งพอในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง

ไทยกำลังเผชิญกับอุปสรรคเชิงโครงสร้างสองประการ ได้แก่ การลงทุนและการบริโภคที่อ่อนแอจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกดดันอื่น ได้แก่ เงินบาทที่แข็งค่าและโครงสร้างประชากรที่มีสัดส่วนผู้สูงวัยในระดับสูง อุปสรรคเหล่านี้ต้องการนโยบายที่เน้นการปฏิรูปที่เข้มแข็งเพื่อแก้ไข และนโยบายที่เข้มแข็งนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้หากไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม (people’s mandate) ซึ่งเป็นมุมมองที่เราไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากผลการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า รัฐบาลชุดถัดไปน่าจะยังคงเป็นรัฐบาลผสมอนุรักษ์นิยมและก้าวหน้า อีกทั้งเรายังเห็นสัญญาณว่าธปท. จะดำเนินนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปและสมดุล แทนที่จะใช้มาตรการที่เข้มงวดในการจัดการกับอุปสรรคเชิงโครงสร้างที่กล่าวถึงข้างต้น

ธีมการลงทุนไปจนถึง 1Q26F

เนื่องจาก SET target ที่ไม่ได้สูงมากนัก และไม่ได้มองว่าตลาดจะขึ้นแบบกระจายตัว จึงแนะนำ 4 ธีมการลงทุนสำหรับ 1Q26F  1) กระแสการเติบโตของ AI และดาต้าเซนเตอร์ 2) นโยบายการคลังและการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น พร้อมมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ 3) รอบการลงทุนจาก FDI และ 4) ราคาพลังงานที่ต่ำ ธีมเหล่านี้ทำให้เราชอบกลุ่มอุตสาหกรรมดังนี้ อิเล็กทรอนิกส์ (ได้ประโยชน์จาก AI และดาต้าเซนเตอร์), นิคมอุตสาหกรรม (ได้อานิสงส์จาก FDI และ Datacenter), ไมโครไฟแนนซ์ (ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลงและการปรับโครงสร้างหนี้), ค้าปลีก (ได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และดอกเบี้ยขาลง) สาธารณูปโภค (ได้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ลดลง และความต้องการใช้ไฟจากดาต้าเซนเตอร์)

เปลี่ยนหุ้น Top Picks

เรายังคงมองบวกต่อกลุ่มอุตสาหกรรมที่แนะนำไว้ข้างต้น แต่เปลี่ยนหุ้น Top Picks บางส่วน โดยแทนที่ HMPRO และ COM7 ด้วย CPN และ GPSC เนื่องด้วย GPSC มีเรื่องราวการฟื้นตัวของกำไร ขณะที่ CPN มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนกว่า HMPRO และมีมูลค่าที่ถูกกว่า ขณะที่ COM7 ปรับตัวขึ้นมากกว่า 40% จากจุดต่ำสุดของปีนี้แล้ว ทั้งนี้เรายังคงหุ้น Top Picks ตัวอื่นเช่นเดิม ซึ่งได้แก่ DELTA, MTC, SAWAD, GULF, MOSHI, TRUE, AMATA และ CPALL

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version