ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาขับเคลื่อนด้วยแรงซื้อในหุ้นปันผลอีกครั้ง สะท้อนถึงบรรยากาศการลงทุนที่ระมัดระวังยิ่งขึ้น ขณะที่ ฝั่งตราสารหนี้กลับได้รับแรงหนุนอย่างชัดเจน จากตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน

เรื่องราวน่าสนใจ

1. สรุปรายงานการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP เดือน พ.ย.

– ภาพรวมอ่อนแอลงอย่างชัดเจน มีการปลดคนงานสุทธิ 32,000 ตำแหน่ง ตรงข้ามกับรอบก่อนที่รับเพิ่ม 47,000 ตำแหน่ง และแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้มาก นอกจากนี้ ยังถือเป็นการหดตัวแรงที่สุดตั้งแต่มี.ค. 2023

– การชะลอตัวกระจายวงกว้างขึ้นอย่างชัดเจน โดย อุตสาหกรรมที่ยังมีการจ้างงานเพิ่ม มีเพียง 40% ลดลงจาก 90% ในเดือนก.ค.  ส่วนที่ดูอันตรายที่สุด คือ ธุรกิจขนาดเล็กที่มีการปลดพนักงานไปถึง 120,000 ตำแหน่ง

– ด้านค่าจ้างก็ชะลอลงเช่นกัน สะท้อนว่า “ความอ่อนแรง” มาจาก Demand แรงงานที่ลดลง ไม่ใช่ปัญหาด้าน Supply หรือข้อจำกัดด้านผู้อพยพ

🔍ตัวเลขที่อ่อนแอทำให้ Fed มีเหตุผลมากพอที่จะลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อตลาดหุ้นในระยะสั้น

อย่างไรก็ดี ในมุมมองระยะกลางถึงยาวตลาดยังมีความเปราะบางสูง หากอัตราว่างงานเร่งตัวขึ้น ตลาดมีความเสี่ยงที่อาจปรับฐานเกิน -10%

🔍 สำหรับผู้ที่ต้องการตัวช่วยในการติดตามเหตุการณ์สำคัญ พร้อมมุมมองและคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ สามารถติดตามรายงาน Wealth Strategy ซึ่งสรุปประเด็นเด่นและทิศทางการลงทุนที่ควรจับตาในแต่ละช่วงเวลา

2. สรุป ISM Services PMI พ.ย.

– ปรับขึ้นเล็กน้อยสู่ 52.6 สูงสุดในรอบ 9 เดือนและดีกว่าคาด โดย แรงหนุนมาจาก กิจกรรมธุรกิจที่เพิ่มขึ้น และ คำสั่งซื้อใหม่ที่ขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ งานค้าง (backlogs) กระโดดขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ก.พ. บ่งชี้ว่าความต้องการเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ

– อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ การจ้างงานยังหดตัวต่อเนื่อง ที่ 48.9 และตัวเลข Supplier Deliveries ที่ดีดขึ้นมา 54.1 สะท้อนว่าการส่งมอบล่าช้าจากปัญหาการจราจรทางอากาศและขั้นตอนศุลกากรที่เข้มงวดขึ้นจากมาตรการภาษี

– ด้านเงินเฟ้อก็มีสัญญาณผ่อนลง โดยดัชนีราคา ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ช่วยสนับสนุนให้ Fed ลดดอกเบี้ย ด้วยเช่นกัน

3. รัฐบาลทรัมป์เร่งผลักดันอุตสาหกรรมหุ่นยนต์

– รายงานจาก Politico ระบุว่า รมว.พาณิชย์กำลังเดินหน้าเจรจากับบรรดา CEO บริษัทหุ่นยนต์ ขณะที่กระทรวงคมนาคมเตรียมตั้งคณะทำงานด้าน Robotics และในปีหน้าอาจมีคำสั่งบริหารเพื่อเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมนี้โดยเฉพาะ

– เป้าหมายคือยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ, ให้ AI “มีร่างกาย” ผ่านหุ่นยนต์ เพื่อแข่งกับจีน, พร้อมสนับสนุนการย้ายฐานการผลิตกลับประเทศ (reshoring), และเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน

– แม้ปัจจุบันยังไม่มีรายละเอียดของมาตรการสนับสนุนที่ชัดเจน แต่ด้วยหุ่นยนต์ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนอนาคตของประเทศ จึงทำให้ธีมนี้ดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับภาพระยะยาวในกรอบ 3 ปีขึ้นไป

🔍 สำหรับผู้ที่สนใจในหุ้นธีมนี้ สามารถพิจารณาลงทุนผ่าน ROBO ETF ซึ่งกระจายลงทุนในบริษัทหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติทั่วโลก ครอบคลุมทั้งผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์ ไปจนถึงผู้พัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงด้าน AI-Robotics… หรือ พิจารณาลงทุนในหุ้นรายตัว อาทิ

i) Palantir (PLTR) สมองกลางของระบบหุ่นยนต์

ขายแพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลจากฝูงหุ่นยนต์และระบบอื่นๆ สำหรับใช้ วิเคราะห์ว่า “ตอนนี้ควรสั่งให้หุ่นยนต์ตัวไหนทำอะไร”, ใช้วางแผนงานล่วงหน้า และใช้ run simulation ก่อนลงมือทำงานจริง

ii) UiPath (PATH) หุ่นยนต์ซอฟต์แวร์ประจำออฟฟิศ

UiPath ก็เหมือน Palantir ตรงที่ ไม่ได้ทำหุ่นยนต์แขนกล แต่ทำสิ่งที่เรียกว่า Robotic Process Automation หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็น “หุ่นยนต์ซอฟต์แวร์” ที่ทำงานซ้ำๆ ในคอม เช่น เปิดอีเมล โหลดไฟล์ กรอกข้อมูลเข้า Excel อัปข้อมูลเข้าระบบบริษัท อ่านข้อมูลจากไฟล์/เว็บ แล้วไปกรอกลงระบบ CRM หรือ ERP

iii) Tesla (TSLA) ผู้บุกเบิกหุ่นยนต์ทั่วไป (Humanoids)

นอกจากรถยนต์ไฟฟ้า Tesla กำลังผลักดัน Optimus หุ่นยนต์มนุษย์ที่ทำงานโรงงานแทนคน หากสำเร็จ จะพลิกโฉมการผลิต เพราะสามารถทำงานหนัก 24 ชม. โดยไม่เหนื่อย

iv) Intuitive Surgical (ISRG) ผู้นำหุ่นยนต์ผ่าตัดอันดับ 1

ระบบ “Da Vinci” ช่วยให้ศัลยแพทย์ผ่าตัดได้ละเอียดเหมือนมือมนุษย์ที่อัปเกรด มีฐานติดตั้งทั่วโลก และรายได้ส่วนใหญ่เป็น recurring จากอุปกรณ์และบริการ

v) Rockwell Automation (ROK) โครงสร้างพื้นฐานของโรงงานอัตโนมัติ

ให้ระบบควบคุมเครื่องจักร หุ่นยนต์ และซอฟต์แวร์ที่ทำให้โรงงานเดินได้แบบอัตโนมัติ เป็นหัวใจของการผลิตยุคใหม่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ อาหาร เครื่องดื่ม และโลจิสติกส์

vi) AeroVironment (AVAV) ผู้นำด้านโดรน UAV ทางทหาร

ผลิตโดรนลาดตระเวนและโดรนโจมตีที่ถูกใช้โดยกองทัพหลายประเทศ จุดเด่น คือ ขนาดเล็ก บินได้นาน และป้อนข้อมูลเข้าระบบป้องกันอัตโนมัติแบบเรียลไทม์

vii) Symbotic (SYM) หุ่นยนต์คลังสินค้าแบบ Fully-Autonomous

พัฒนาเครือข่ายหุ่นยนต์ที่จัดเรียง ยก เคลื่อนย้ายสินค้าให้คลังทำงานได้เร็วขึ้นหลายเท่า ถูกใช้อย่างหนักโดย Walmart และกำลังขยายไปยังเครือข่ายโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ทั่วสหรัฐฯ

viii) Zebra Technologies (ZBRA) หุ่นยนต์เคลื่อนที่ + ระบบสแกนสำหรับโรงงาน/โลจิสติกส์

ทำเครื่องสแกนบาร์โค้ด RFID และหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัจฉริยะที่เป็นหัวใจของคลังสินค้า ช่วยให้ธุรกิจติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์และลดต้นทุนแรงงานได้มาก

ix) Axon (AXON) หุ่นยนต์และ AI สำหรับงานตำรวจ/ความปลอดภัยสาธารณะ

ทำกล้องติดตัว (body cams), ระบบ AI วิเคราะห์เหตุการณ์ และหุ่นยนต์ช่วยเก็บกู้ระเบิด กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของหน่วยงานความปลอดภัยทั่วโลก

x) Honeywell (HON) ผู้สร้างระบบอัตโนมัติระดับอุตสาหกรรมแบบครบวงจร

ผลิตแขนกลอุตสาหกรรม เซ็นเซอร์ ระบบควบคุมอัจฉริยะ และหุ่นยนต์งานหนัก ถือเป็นเสาหลักในโรงงานยุคใหม่ ตั้งแต่พลังงาน อากาศยาน ไปจนถึงคลังสินค้า

🌎Thanachart Global Investment
🌟 เพิ่มโอกาสในการลงทุนหุ้นนอกให้คุณง่ายกว่าเดิมกับ Thanachart Global Investment

เปิดบัญชีฟรี | ลงทุนไม่มีขั้นต่ำ | ค่าธรรมเนียมสุดพิเศษ | ฟรีโอนถึงสิ้นปี | ลงทุนได้ถึง 10 ประเทศ | เทรดหุ้นสหรัฐ 24 ชั่วโมง

📞เปิดบัญชีเลย คลิก https://www.thanachartsec.com/Content/Open%252520Account/22/th หรือ Contact center 02-779-9000

เทรดหุ้นนอกง่าย ตลอด 24 ชม. ด้วยแอป Think+ Global
👉 โหลดเลย https://microsite.thanachartsec.com/mobile-link/thanachart-think-plus-global