ZEAL Insight: วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Zeal Insight……
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Zeal Insight……
เศรษฐกิจสหรัฐฯอ่อนแอลง โดยเฉพาะในภาคการจ้างงาน ที่อัตราว่างงานกำลังจะเร่งตัว อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงที่จะเกิด recession ภายใน 1 ปี ยังค่อนข้างต่ำ เพราะนโยบายการเงิน-การคลัง ที่ผ่อนคลายลงพร้อมกัน ขณะที่ การประชุม 4th Plenum ของจีน แม้ไม่เปลี่ยนทิศทางใหญ่ แต่ใช้โทนที่เข้มขึ้น ย้ำชัดเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อพึ่งพาตนเอง และการขับเคลื่อนกำลังซื้อในประเทศ ผ่านเงินอุดหนุนสินเชื่อผู้บริโภค-เก่าแลกใหม่ ขณะที่ มีสัญญาณกระชับอำนาจภายในพรรค สำหรับเศรษฐกิจไทย ยังคงอ่อนแอเช่นเคย แม้ได้ตัวช่วยจากมาตรการท่องเที่ยว แต่ใน 4Q25F-1Q26F คาดจะฟื้นตัวจากมาตรการรัฐฯที่หนักหน่วง และปัจจัยฤดูกาล แต่ในระยะกลาง-ยาว ยังต้องเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างกดดัน เราแนะนำสัดส่วนลงทุน ดังนี้ หุ้นไทย 20% (เดิม 25%), หุ้นต่างประเทศ 15% ผ่านกองทุน KFCYBER-A ES-INDAE SCBASHARES(A) UGD, Asset Funds 10%, ทองคำ 5%, ตราสารหนี้ระยะสั้น 30% (เดิม 15%), […]
แนะนำ “ขายออก” หุ้นพลังงานโลก (KT-ENERGY) เพราะราคาหุ้นฟื้นจากข่าวบวกบ้างแล้ว และเศรษฐกิจสหรัฐก็เริ่มชะลอตัวชัด ทั้งตลาดแรงงาน-ภาคบริการ ขณะที่ “ซื้อเพิ่ม” หุ้นไซเบอร์ซีเคียวริตี้ (KFCYBER-A) มองผลประกอบการบริษัทไม่ค่อยอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ มีโมเดลธุรกิจที่มั่นคงและจำเป็นต่อทุกองค์กร อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วยเมกะเทรนด์ Cloud-AI-IoT ซึ่งยิ่งก้าวหน้า ก็ยิ่งผลักดันให้องค์กรต้องลงทุนด้าน Cybersecurity ต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา… สำหรับสำหรับผลตอบแทนของแผนการลงทุน ZEAL นับตั้งแต่ต้นปี อยู่ในกรอบ -16.3% ถึง 2.1% vs SET TRI ที่ -4.4% (Ex1.2) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Weekly Strategy……
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Zeal Insight……
ภาพข้างหน้าตลาดโดยรวมยังต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น ในช่วงนี้เราแนะนำให้กระจายความเสี่ยงในหลากหลายสินทรัพย์ ควบคู่กับการโฟกัสธีมหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเน้นกองทุน 1) หุ้นความปลอดภัยไซเบอร์ KFCYBER-A และหุ้นสุขภาพ ES-HEALTHCARE ซึ่งเป็นธุรกิจแข็งแกร่งทนทานต่อเศรษฐกิจและมีปัจจัยขับเคลื่อนระยะยาว 2) พันธบัตรระยะสั้นสหรัฐ ONE-FFI ซึ่งเป็นสินทรัพย์หลบภัยที่เหมาะกับช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อีกทั้งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตราสารหนี้ไทยด้วย … สำหรับผลตอบแทนของแผนการลงทุน ZEAL นับตั้งแต่ต้นปี อยู่ในกรอบ -15.7% ถึง 3.2% vs SET TRI ที่ -4.8% (Ex1.2) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Weekly Strategy……
เราคัดเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีที่น่าลงทุน โดยแบ่งตามประเภทสินทรัพย์ ดังนี้ 1) ตราสารหนี้ไทย: KFMTFIRMF 2) ตราสารหนี้โลก: K-GDBONDRMF 3) หุ้นไทย: K-TNZ-THAIESG และ SCBRMS50 4) หุ้นกลุ่มสุขภาพ: ES-HEALTHCARERMF 5) หุ้นโลกตามธีม AI: KT-WTAI RMF… สำหรับผลตอบแทนของแผนการลงทุน ZEAL นับตั้งแต่ต้นปี อยู่ในกรอบ 5.2% ถึง -14.2% vs SET TRI ที่ -3.5% (Ex1.2) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Weekly Strategy……
ในช่วงนี้เราแนะนำ Overweight หุ้นนอกสหรัฐฯ โดยเน้น 3 ธีมหลัก คือ 1) “ทยอยซื้อ” หุ้นอินเดีย ES-INDAE ได้แรงหนุนจากโอกาสเจรจากับสหรัฐฯ ที่ราบรื่นขึ้น และโอกาสปรับขึ้นค่าแรงในปีหน้า 2) “ซื้อเพิ่ม” หุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ SCBASHARES(A) หลังผ่านการปรับฐานตามคาด และมีปัจจัยบวกรออยู่ข้างหน้า 3) “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น EV โลก SCBEV(A) ที่ได้อานิสงส์จากนโยบาย Anti-Involution ของจีน ซึ่งเปลี่ยนเกมการแข่งขันไปสู่คุณภาพและนวัตกรรม ส่งผลบวกต่อซัพพลายเชน EV ทั่วโลก… สำหรับผลตอบแทนของแผนการลงทุน ZEAL นับตั้งแต่ต้นปี อยู่ในกรอบ 2.0% ถึง -15.1% vs SET TRI ที่ -6.2% (Ex1.2) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Weekly Strategy……
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Zeal Insight……
เรายังคง “Underweight” หุ้นสหรัฐฯโดยรวม เพราะ ความเสี่ยงเรื่อง Fed อาจส่งสัญญาณ Hawkish Cut, มีปัจจัยเชิงฤดูกาลของตลาดหุ้น, รวมทั้งภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอการเติบโตเร็วขึ้น ขณะที่ หุ้นจีนปรับขึ้นแรงในสัปดาห์เดียว จึงแนะนำ “ขายทำกำไรบางส่วน” เพื่อรอจังหวะสะสมใหม่ สำหรับโอกาสลงทุนในช่วงนี้ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้นพลังงานโลก ผ่านกองทุน KT-ENERGY และแนะนำ “ซื้อ” ตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ ผ่านกองทุน ONE-FFI … สำหรับผลตอบแทนของแผนการลงทุน ZEAL นับตั้งแต่ต้นปี อยู่ในกรอบ -0.4% ถึง -15.7% vs SET TRI ที่ -6.8% (Ex1.2) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Weekly Strategy……
เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มชะลอการเติบโตจากกำลังซื้อที่อ่อนแรงลง เราจึงเน้นลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยแนะนำ 1) “Overweight” หุ้น Defensive ผ่านกองทุน UGD, ES-HEALTHCARE 2) “เริ่มสะสม” หุ้นนวัตกรรมจีน ผ่านกองทุน ES-STARTECH ที่ได้แรงหนุนจากยุทธศาสตร์พึ่งพาตัวเองทางเทคโนโลยี ทำให้จีนเร่งลงทุน R&D แซงหน้าสหรัฐฯ เดินหน้ากีดกันชิปต่างชาติ พร้อมผลักดันนวัตกรรมในประเทศ นอกจากนี้แล้ว คาดกองทุนจะได้รับประโยชน์จาก Five Year Plan ฉบับใหม่ และมาตรการหนุนในด้านอื่นๆ… สำหรับผลตอบแทนของแผนการลงทุน ZEAL นับตั้งแต่ต้นปี อยู่ในกรอบ -1.7% ถึง -18.6% vs SET TRI ที่ -8.5% (Ex1.2) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Weekly Strategy……
