- การผลิตรถยนต์เดือนกรกฎาคมลดลง m-m เป็นไปตามคาด แต่น่าจะฟื้นตัวได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
- การส่งออกลดลง m-m เนื่องจากลดลงในบางตลาด แต่ยังคงดีขึ้น y-y
- ยอดขายในประเทศอ่อนแอตามที่คาดไว้ว่าจะลดลง y-y และ m-m เนื่องจากการใช้จ่ายที่อ่อนแอ
- เราชอบ SAT ด้วยมีการฟื้นตัวของกำไรที่แข็งแกร่ง และมูลค่าที่ไม่แพง
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) รายงานการผลิตรถยนต์ใหม่ในเดือนกรกฎาคมลดลง 8.5% m-m เป็น 122,852 คัน (72% ของฐานปี 2019) ซึ่งเป็นไปตามคาด การลดลงมีสาเหตุหลักมาจากการปิดโรงงานของโตโยต้าในปลายเดือนกรกฎาคม เนื่องจากการหยุดชะงักของการผลิตของซัพพลายเออร์จากการระบาดของโควิด-19 ปัจจุบันโตโยต้ากลับมาดำเนินการได้ตามปกติ การผลิตรถยนต์ 7M21 อยู่ที่ 967,453 คัน (78% ของฐานปี 2019) คิดเป็น 63% ของสมมติฐานทั้งปีของเราที่ 1.54 ล้านคัน สำหรับปี 2021 เรายังคงประมาณการยอดผลิตทั้งปีเท่าเดิมเพื่อรองรับความเสี่ยงที่ชิ้นส่วนขาดแคลนท่ามกลางโควิดที่ระบาดในภูมิภาคทำให้การจัดหาชิ้นส่วนมาประกอบรถยยต์ทำได้ยากขึ้น เรามองว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของยอดผลิตรถ q-q จะปรับตัวขึ้นบ้างใน 3Q21 และจะปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นใน 4Q21
สำหรับยอดขาย การส่งออกรถยนต์เดือนกรกฎาคมลดลง 15% m-m (และเพิ่มขึ้น 42% y-y จากฐานที่ต่ำ) เป็น 70,590 คัน (86% ของฐานปี 2019) เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยเป็นการลดลงจากตลาดแอฟริกา ตะวันออกกลาง และยุโรป ยอดขายในประเทศอ่อนแอมาก โดยลดลง 12% y-y แม้จะมาจากฐานต่ำ และ 15% m-m อยู่ที่ 52,442 คัน (65% ของฐานปี 2019) ในเดือนกรกฎาคม การลดลงเป็นผลมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ระมัดระวังมากขึ้นหลังจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ และการให้สินเชื่อรถยนต์ที่เข้มงวดขึ้น
เรายังคงให้น้ำหนักลงทุนเป็น “OVERWEIGHT” กลุ่มยานยนต์ เราชอบ SAT (“ซื้อ”, ราคาเป้าหมาย 28 บาท) เนื่องจากคาดว่า SAT จะมี EPS ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งเฉลี่ย 2 ปีที่ 80% ในปี 2020-22F ขณะที่ไม่แพงที่ 2022F PE ที่ 9 เท่า (6 เท่า ไม่รวมเงินสด) เทียบกับการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งมาก และให้อัตราผลตอบแทนปันผลที่ 6-7% ในปี 2021-22F และได้รับแรงหนุนจากการมีสถานะเป็นเงินสดสุทธิ (27% ของราคาหุ้น)
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……
รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version