GUNKUL (BUY) – โอกาสการเติบโตจาก PDP ใหม่ – Target Price Bt6.20, Price Bt5.55

เราเห็นโอกาสการเติบโตที่สูงจากแผนการร่วมทุนใหม่ของ GUNKUL เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน บนสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่จะมาพร้อมแผน PDP ใหม่ของไทย (PDP-2022) ซึ่งน่าจะชดเชยการเติบโตของธุรกิจกัญชง ที่น้อยกว่าคาดได้ เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 6.2 บาท
มีโอกาสเติบโตสูงจากพลังงานทดแทน
เราคงแนะนำ “ซื้อ” GUNKUL หลังรวมมูลค่าจากบริษัทร่วมทุนที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นกับ บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เพื่อร่วมประมูลสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ (PDP-2022) ซึ่งน่าจะออกมาได้ช่วงปลายปี 2022 นี้ 1) เราคาดบริษัทร่วมทุนนี้จะได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมกำลังการผลิต 1.0GW ในปี 2023-27F 2) GUNKUL จะเป็นผู้รับเหมาด้านวิศวกรรมเพียงรายเดียวสำหรับการพัฒนาโครงการดังกล่าว จึงมีกำไรจากธุรกิจ EPC ด้วยนอกเหนือจากรายได้ของโรงไฟฟ้า 3) เราประเมินมูลค่าจากบริษัทร่วมทุนต่อ GUNKUL ที่ 1 บาท/หุ้น (จากโรงไฟฟ้า 0.8 บาท และผ่านธุรกิจ EPC อีก 0.2 บาท) ซึ่งจะชดเชยผลลบจากการปรับสมมติฐานพื้นที่การปลูกกัญชง/กัญชาของ GUNKUL เหลือ 100 ไร่ ในปี 2024F (จาก 200 ไร่) ลงได้ ราคาเป้าหมายของเราจึงเพิ่มขึ้นเป็น 6.2 บาท (จาก 5.75 บาท) หลังปรับมาใช้ปีฐาน 2023F
สัญญาซื้อขายพลังงานทดแทนใหม่ในปี 2023
เรามองว่า GUNKUL เป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก PDP-2022 เพราะคาดว่า PDP ใหม่จะมาพร้อมกับสัญญา PPA ใหม่สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานลม และโควตาเพิ่มเติมในการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเราเชื่อว่าจะมีการประมูล PPA ใหม่ในปี 2023 ภายใต้ประสบการณ์ที่แข็งแกร่งของ GUNKUL ในการโครงการพลังงานลมและการมีที่ดินที่มีศักยภาพอยู่แล้ว (รวมถึงที่ดินที่ GULF เป็นเจ้าของ) เราจึงคาดบริษัทร่วมทุนจะได้ PPA โครงการพลังงานลมรวม 500MW (250MW บนการถือหุ้น 50% ของ GUNKUL ในบริษัทร่วมทุน) ในปี 2024-27F สำหรับโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ บริษัทร่วมทุนตั้งเป้าพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ให้หน่วยงานราชการ นิคมอุตสาหกรรม หรืออาคารเชิงพาณิชย์ในรูปแบบของโซลาร์ฟาร์มหรือโซลาร์รูฟ เราคาด GUNKUL จะได้กำลังการผลิตโครงการพลังงานแสงอาทิตย์อีก 250MW ในช่วงปี 2023-27F
ให้สมมติที่ระมัดระวังมากขึ้นต่อธุรกิจกัญชง
GUNKUL เก็บเกี่ยวผลผลิตแรกจากการปลูกกัญชงในเดือนพฤษภาคม เราคาดกัญชงจะสร้างกำไร 290 ลบ. และเป็นหนึ่งในปัจจัยหนุนการเติบโตของกำไรของ GUNKUL ในปี 2022F อย่างไรก็ตามเราปรับลดเป้าหมายพื้นที่การปลูกกัญชง/กัญชาของ GUNKUL เป็น 25/75/100 ไร่ ในปี 2022-24F (จาก 50/150/200 ไร่) หลังบริษัทปรับแผนระยะยาวลง ตามแนวโน้มผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม CBD ในประเทศที่อ่อนแอกว่าคาด ทำให้เราปรับมูลค่าธุรกิจกัญชง/กัญชาลงเหลือ 1.1 บาท/หุ้น (จาก 1.5 บาท) และคาดจะสร้างกำไรได้ 700 ลบ. หรือ 20% ของฐานกำไร GUNKUL ในปี 2025F
ปัจจัยผลักดันราคาหุ้น
เรามองเห็นสามปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นของ GUNKUL ในช่วง 2H22F จาก 1) รายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากธุรกิจกัญชงเป็นแรงหนุนในระยะสั้นที่สุด 2) แผน PDP-2022 ที่คาดจะออกมาปลายปีนี้ น่าจะนำไปสู่การประกาศ PPA ใหม่ ซึ่งจะเป็นโอกาสการเติบโตที่สำคัญของ GUNKUL และ 3) GUNKUL มีแผนจะขายธุรกิจวิศวกรรมและการก่อสร้าง (EPC) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ในช่วงต้นปี 2023 ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนุนมูลค่าของบริษัทฯ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……