EA (BUY) – น่าสนใจอีกครั้ง – Target Price Bt45.00, Price Bt36.00

ราคาหุ้น EA ปรับลดลงมาเหลือเพียง 1/3 ของจุดสูงสุด หลังตลาดเลิกให้ premium แก่หุ้นอุตสาหกรรม EV ที่คาดจะเป็นกลุ่มหุ้นแห่งอนาคต เราจึงประเมินมูลค่า EA ใหม่โดยนำโอกาสการเติบโตในอนาคตออกจากราคาเป้าหมายของเรา แต่เรามองว่าธุรกิจด้าน EV ของ EA นั้นดูแข็งแรงขึ้นมาก จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
นำโอกาสการเติบโตออกจากราคาเป้าหมาย แต่ยังแนะนำ “ซื้อ”
เรานำมูลค่าของโอกาสการเติบโตจากแผนขยายธุรกิจในระยะยาวของ EA ออกจากราคาเป้าหมาย และประเมินมูลค่าใหม่โดยเน้นธุรกิจที่มีในปัจจุบัน ราคาเป้าหมายของเรา (ปีฐาน 2024F) จึงลดเหลือ 45 บาท (จาก 80 บาท) แต่เรายังแนะนำ “ซื้อ” EA เนื่องจาก 1) เรามองว่าราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนเพียงมูลค่าธุรกิจปัจจุบัน และให้มูลค่าจากโอกาสการเติบโตธุรกิจ EV น้อยเกินไป 2) ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ EV ดูแข็งแกร่งขึ้น จากการเติบโตยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (CEV) ให้บริษัทใหญ่ในประเทศ 3) บนยอดขาย CEV ที่เพิ่มขึ้น เราคาดโรงงานแบตเตอรี่ของ EA จะดำเนินงานเต็มกำลังการผลิต 2GWh ได้ในปี 2025F และมองว่าแผนการขยายกำลังการผลิตเป็น 4GWh นั้นเป็นไปได้สูงเนื่องจากการใช้งาน EV ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และ 4) เราคาดการร่วมทุนกับผู้ผลิตแบตเตอรี่จีนจะขยายตลาดการขายแบตเตอรี่ของ EA ไปในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล (PEV) ได้
เปลี่ยนวิธีประเมินมูลค่าใหม่
เราเปลี่ยนวิธีประเมินมูลค่า EA ใหม่ โดยเน้นธุรกิจที่มีอยู่และโอกาสการเติบโตที่เป็นรูปธรรม และนำมูลค่าจากการเติบโตระยะยาวออก โดยราคาเป้าหมายใหม่ของเราที่ 45 บาท ประกอบด้วย 1) ธุรกิจดั้งเดิมด้านไบโอดีเซลพลังงานทดแทน 12 บาท 2) ธุรกิจ CEV ปัจจุบัน ได้แก่ โรงงานแบตเตอรี่ ‘Amita’ กำลังการผลิต 2GWh (ถือหุ้น 75%), การขาย CEV ผ่าน บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX, “ซื้อ”, ถือหุ้น 40%), และโรงงานผลิต CEV (Absolute Assembly, AAB, ถือหุ้น 73%) บนยอดขายเฉลี่ยปีละ 5,000 คัน รวมมูลค่า 16 บาท 3) มูลค่า 5 บาทจากการขยายกำลังการผลิตของ Amita เป็น 4GWh ในปี 2026F เพื่อรองรับการใช้งาน CEV ในประเทศที่เพิ่มขึ้นและโอกาสการส่งออก และ 4) มูลค่า 12 บาท จากบริษัทร่วมทุนที่จะเกิดขึ้นเพื่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ใหม่กำลังการผลิต 6GWh ในไทย
ธุรกิจ EV ดูแข็งแรงขึ้น
EA มียอดขาย CEV 2,264 คัน ในปี 2023 และเราคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,500/4,500/5,500 คัน ในปี 2024-26F ส่วนใหญ่เป็นการขายรถบรรทุกไฟฟ้าให้บริษัทขนส่ง (JWD, DHL และ CEVA) และบริษัทขนาดใหญ่ (ไทยน้ำทิพย์, PTTGC และ HMPRO) จากมาตรการด้าน ESG และการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เข้มข้นขึ้น สมมติฐานยอดขายรถบรรทุกและรถบัสไฟฟ้า 3,000/3,500/4,000 คัน และ 500/1,000/1,500 คัน ในปี 2024-26F ของเราจะต้องใช้แบตเตอรี่ 1.2/1.5/1.9GWh จากโรงงานของ EA การปรับกำไรปี 2024-26F ลง 17/19/14% นั้นมาจากการปรับยอดขายแบตเตอรี่ของ EA ลง เนื่องจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตช้ากว่าคาด
ร่วมทุนกับผู้ผลิตแบตเตอรี่จีน
EA คาดจะบรรลุข้อตกลงการร่วมทุน (50:50) กับ EVE Energy (EVE) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ให้อุตสาหกรรม EV และระบบจัดเก็บพลังงาน (ESS) ของโลกได้ใน 2Q24 ซึ่ง EVE เป็นซัพพลายเออร์ปัจจุบันของ Changan และ MG ซึ่งกำลังสร้างโรงงาน EV ในไทย เราจึงคาดความร่วมมือนี้จะทำให้ EA สามารถขายแบตเตอรี่เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลได้ โดยบริษัทร่วมทุนนี้มีเป้าหมายจะสร้างโรงงานแบตเตอรี่ 6GWh เพื่อรองรับความต้องแบตเตอรี่ในประเทศและเพื่อการส่งออก
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……