Company Equity 29 June 2024, 10:49

GULF (BUY) – ได้ประโยชน์มากสุดจาก PDP ใหม่ –  Target Price Bt54.00, Price Bt41.25


GULF เป็น Top Pick ในกลุ่มสาธารณูปโภคของเรา โดยเรามองว่า GULF จะเป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจากแผน PDP ใหม่ ด้วยการมีศักยภาพสูงสุดในการการประมูล PPA พลังงานทดแทน และโครงการทดแทน IPP เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 54 บาท/หุ้น

แนะนำ “ซื้อ” และเป็น Top Pick กลุ่มฯของเรา

บทวิเคราะห์นี้เป็นส่วนหนึ่งของบทวิเคราะห์กลุ่มสาธารณูปโภคไทย “PDP ใหม่เป็นปัจจัยหนุน” วันที่ 26 เมษายน 2024 เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” GULF ซึ่งเป็น Top Pick ในกลุ่มฯ ของเรา 1) เรามองว่า GULF จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากแผน PDP ใหม่ ซึ่งเราคาดว่าจะมาพร้อมกับโควตากำลังการผลิตพลังงานทดแทนในปริมาณมาก 2) ด้วยเป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุด เราเชื่อว่า GULF เป็นผู้ท้าชิงหลักที่จะได้สิทธิ์การพัฒนาโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลใหม่เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้า IPP ราว 13GW ที่จะทยอยหมดอายุในช่วงปี 2026-35F 3) แม้ยังสร้างกำไรที่จำกัดในระยะสั้น แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซธรรมชาติของบริษัท น่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีตลาดก๊าซธรรมชาติในอนาคต แม้จะยังไม่ได้รวมโอกาสการเติบโตจาก PDP ใหม่ เรายังคาดกำไร GULF เพิ่มขึ้น 15/18/10% ในปี 2024-26F จากโครงการที่ได้รับ PPA แล้ว

ผู้ท้าชิงหลักในการประมูล PPA ใหม่

GULF ชนะการประมูลสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รวม 2.0GW จากการ จากโควตากำลังการผลิตรวม 5.2GW เมื่อ 1Q23 ทำให้เราคาดว่า GULF จะยังเป็นผู้เข้าประมูลที่แข็งแกร่งในอนาคต โดยมีข้อได้เปรียบจากขนาดการสั่งซื้ออุปกรณ์และการจัดหาผู้ผลิต และการเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศและต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ เรามอง GULF เป็นผู้เล่นสำคัญที่อาจได้รับสิทธิ์พัฒนาโรงไฟฟ้าเพื่อทดแทนโครงการ IPP ที่กำลังจะหมดอายุในช่วงปี 2026-35F ราว 13GW ซึ่งน่าจะรวมอยู่ในแผน PDP ใหม่ การประเมินมูลค่าของเราอยู่บนสมมติฐานว่า GULF จะชนะ 1) PPA พลังงานทดแทน 1.0GW จากการประมูลปลายปีนี้ 2) PPA พลังงานทดแทน 8.0GW จาก PDP ใหม่ และ 3) โครงการทดแทน IPP 3.0GW

ธุรกิจก๊าซเกิดใหม่

GULF ได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปิดเสรีตลาดในอนาคต การลงทุนดังกล่าวประกอบด้วยท่อขนส่งก๊าซ ท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Terminal) และใบอนุญาตนำเข้า LNG แม้เรามองว่าธุรกิจจะยังไม่สร้างผลตอบแทนมากในช่วงสั้น แต่ผลกำไรน่าเริ่มจะมีนัยสำคัญมากขึ้นตั้งแต่ปี 2028F

กำลังผลิตเติบโตต่อเนื่องไปยังปี 2033F

เราคาดกำลังการผลิตของ GULF เติบโต 8% ต่อปี ในอีกสิบปีข้างหน้าเป็น 13GW ในปี 2033F (จาก 6.1GW ในปี 2023) โดยอิงจากโครงการที่มี PPA แล้ว การเติบโตดังกล่าวมาจาก 1) กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 1.9GW ในโรงไฟฟ้า IPP เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ที่จะเริ่มดำเนินงานในช่วงปี 2024-27F 2) กำลังการผลิต 2.0GW ของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมที่ชนะการประมูลในปี 2023 ที่กำหนด COD ในช่วงปี 2025-30F และ 3) โรงไฟฟ้าพลังน้ำสามแห่งรวมกำลังการผลิต 1.0GW ที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2030-33F

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version