AOT (BUY) – ยังคงมีแนวโน้มที่ดี – Target Price Bt77.00, Price Bt63.50

แม้จะปรับกำไรลงจากกำไร 1H24 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ปัจจัยพื้นฐานของ AOT ยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากมี operating leverage สูงสุดจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวของไทยที่แข็งแกร่ง มีกำไรเติบโตแข็งแกร่งทำสถิติสูงสุดในปี FY25F ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าที่เคยด้วยมี EBITDA margin มากกว่า 58%, ROE ที่ 18% และสถานะเป็นเงินสดสุทธิ “ซื้อ”
ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 77 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
แม้เราจะปรับลดประมาณการกำไรของ AOT ลง 7-13% ในปี FY24-26F (ดู Exhibit 1) เนื่องจากกำไรที่ต่ำกว่าคาดใน 1H24 แต่เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 77 บาท/หุ้น (จาก 75 บาท) เนื่องจากปรับมาใช้ปีฐานปี FY25F (ปีบัญชีของ AOT สิ้นสุดเดือนกันยายน) AOT ยังคงเป็น Top Sector Pick ของเรา และเรายังคงมองว่า AOT เป็นหนึ่งในหุ้นถือระยะยาวที่ดีที่สุด โดยได้แรงหนุนจาก 1) เป็นธุรกิจที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยที่แข็งแกร่ง 2) การฟื้นตัวของกำไรที่แข็งแกร่งในปีนี้ และสูงเป็นประวัติการณ์ในปี FY25F เป็นต้นไป 3) ผลตอบแทนที่สูงกว่าที่เคย และ 4) อยู่ในสถานะเป็นเงินสดสุทธิรองรับการขยายกำลังการผลิตโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแหล่งเงินทุน
ผู้โดยสารฟื้นตัวสู่ระดับปี FY19 ในปีหน้า
ความต้องการการเดินทางทางอากาศหลังวิกฤตโควิด-19 หนุนผู้โดยสารระหว่างประเทศของ AOT ให้ฟื้นตัวสู่ระดับ 84% ของระดับปี FY19 (หรือเติบโต 48% y-y) ใน 1HFY24 แม้ผู้โดยสารชาวจีนจะฟื้นตัวได้เพียง 58% ของปี FY19 ด้วยมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวมากมายของรัฐบาล โดยเฉพาะการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ผู้โดยสารระหว่างประเทศจึงยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องเป็น 88% ของระดับปี FY19 ในเดือนเมษายน และ 93% ในเดือนนี้ นอกจากนี้เรายังคาดว่าข้อจำกัดด้านอุปทานของสายการบินในปัจจุบันจะค่อยๆ ลดลงในปี 2025F เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ค่าตั๋วโดยสารถูกลง และผลักดันความต้องการการเดินทางทางอากาศให้มากขึ้นไปอีก เราคาดว่าผู้โดยสารระหว่างประเทศของ AOT จะเติบโต 34/13/10% y-y เป็น 86/97/107% ของปี FY19 ในปี FY24-26F
กำไรเติบโต 121/27/15% y-y ในปี FY24-26F
ด้วยรายได้สัมปทานที่เพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากรายได้ประกันขั้นต่ำที่สูงขึ้น 2.4 เท่าจากสัมปทานปลอดอากรใหม่ และผลจาก operating leverage เราคาดว่ากำไรของ AOT จะฟื้นตัวแข็งแกร่ง เติบโต 121% y-y ในปีนี้ และสูงสุดเป็นประวัติการณ์เติบโตที่ 27/15% y-y ในปี FY25-26F ทำให้บริษัทฯ มีผลตอบแทนที่สูงกว่าที่เคย ด้วยมี EBITDA margin 58-63% และ ROE ที่ 18-21% ในปี FY24-26F (เทียบกับ EBITDA margin ที่ 57% และ ROE 16% ในปี FY19) ผลตอบแทนที่สูงขึ้นน่าจะหนุนมูลค่าที่สูงขึ้น ดังนั้นเราจึงเห็นว่าการซื้อขายที่ PE ที่ 45 เท่า ในปีนี้ ก่อนที่จะลดลงสู่ระดับ 36 เท่า ในปี FY25F และ 31 เท่า ในปี FY26F นั้นไม่แพง
รอบการลงทุนไม่น่ากังวล
AOT มีแผนลงทุน 5.9 หมื่นลบ. ในปี FY24-26F เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับ บริษัทฯ น่าจะใช้เงิน 1 หมื่นลบ. ในการขยายสนามบินสุวรรณภูมิฝั่งตะวันออกเพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับ อีก 15 ล้านคน (เทียบกับอัตราการใช้กำลังการผลิตในปัจจุบันที่ 102%) ขณะที่การขยายสนามบินดอนเมืองเฟส 3 เงินลงทุน 3.7 หมื่นลบ. น่าจะขยายขีดความสามารถในการรองรับขึ้น 33% (เทียบกับอัตราการใช้กำลังการผลิตในปัจจุบันที่ 100%) ด้วยมี EBITDA 3.9-5.3 หมื่นลบ.ต่อปี แหล่งเงินทุนจึงน่าจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทฯ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……