Politics – ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “เศรษฐา” พ้นตำแหน่ง
- เศรษฐา สิ้นสุดสภาพการเป็นนายกฯ
- คณะรัฐมนตรีทั้งคณะกลายเป็นรักษาการฯ
- รัฐสภาจะลงคะแนนเลือกนายกฯ คนใหม่เร็วๆ นี้
- เราไม่คาดว่าภาพรวมทางการเมืองจะเปลี่ยนไปจากปัจจุบัน
News Update
- เมื่อวานนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที โดยคดีดังกล่าวเป็นคดีที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่เคยถูกพิพากษาจำคุกจากการพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ศาล ศาลเห็นว่าการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นการไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงอันมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
- หลังจากศาลมีคำพิพากษา นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดสถานะ และคณะรัฐมนตรีทั้งหมดจะกลายเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการโดยอัตโนมัติ ขั้นต่อไปคือ รัฐสภาจะประชุมเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยกฎหมายกำหนดให้ผู้สมัครนายกฯ ต้องเป็นผู้สมัครจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครนายกฯ ที่พรรคการเมืองต่างๆ จัดทำขึ้นในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ได้แก่ แพทองธาร ชินวัตร และนายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จากพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ จากพรรคประชาธิปัตย์
- หลังจากนายกฯ คนใหม่ได้รับเลือกแล้ว นายกฯ จะแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งอาจประกอบด้วยสมาชิกคณะรัฐมนตรีชุดเก่าก็ได้ เนื่องจากกรอบเวลาการลงคะแนนเสียงเลือกนายกฯ ไม่มีข้อกำหนดทางกฎหมายโดยเฉพาะ แต่เป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งเชื่อว่าภายในหนึ่งสัปดาห์
- เรามองว่า นายกฯ คนใหม่จะมาจากพรรคร่วมรัฐบาลหลักคือพรรคเพื่อไทย (พท.) เราไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมพรรคเพื่อไทยที่มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด จะยอมสละตำแหน่งนี้ให้กับพรรคอื่น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมองเห็นความเป็นไปได้ที่นายอนุทินจากพรรคภูมิใจไทยจะเป็นนายกฯ คนใหม่ พรรคเพื่อไทยมีที่นั่ง 141 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคภูมิใจไทยมี 71 ที่นั่ง
- เราไม่คาดว่าภาพรวมทางการเมืองจะเปลี่ยนไปจากปัจจุบัน โดยพรรคเพื่อไทย และขั้วอำนาจเก่าเป็นพันธมิตรทำงานร่วมกันในรัฐบาลผสม ไม่มีการเปลี่ยนโควตาของคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่น่าจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับชุดปัจจุบันมาก นอกจากนี้ เรายังคาดว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีวาระการดำรงตำแหน่งครบ 4 ปี
- เราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจและตลาด เนื่องจากประเทศยังคงอยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลผสมชุดเดิม ซึ่งน่าจะนำโดยพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม
- เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับประเด็นนายกรัฐมนตรีน่าจะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น เช่น ในเวลาหนึ่งถึงสองสัปดาห์ เราจึงยังคงมุมมองของเราในบทวิเคราะห์ Siam Senses – “เน้นหุ้นคุณภาพ” วันที่ 14 สิงหาคม 2024 เช่นเดิม และมองว่าความกังวลเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น
- หุ้น Top Picks ของเรา DELTA, TRUE, CPALL, AOT, MINT, BH, WHA, AMATA, COM7 และ SISB
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……