Company Equity 18 Oct 2024, 06:30

SAT (BUY) – ยังคงให้ปันผลที่ดี – Target Price Bt16.00, Price Bt12.20


แม้เราจะยังคงแนะนำ “ซื้อ” SAT เนื่องจากเราประมาณการอัตราผลตอบแทนที่สูง แต่เราปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนการผลิตยานยนต์ในอุตสาหกรรมที่อ่อนแอลง เราคาดว่าอุตสาหกรรมจะกลับมาเติบโตในปีหน้า และคาดว่า EPS ของ SAT จะเติบโตที่ 17/15% ในปี 2025-26F โดยมีอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 8.9/10.3%

ปรับลดกำไร แต่คงคำแนะนำ “ซื้อ”  

การผลิตรถยนต์ใน 3Q24F คาดว่าจะลดลงมากกว่าคาดถึง 20% y-y และคาดว่าการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดจะทำให้อุตสาหกรรมยังคงอ่อนแอต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ เราจึงได้ปรับกำไรลง 14/11/15% ในปี 2024-26F และปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 16 บาท/หุ้น จากเดิม 18 บาท (ปรับมาใช้ปีฐาน 2025F) อย่างไรก็ตาม เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” SAT 1) อุตสาหกรรมยานยนต์ที่อ่อนแอไม่ใช่เรื่องใหม่ และเราคาดว่าจะฟื้นตัวในปีหน้าจากการใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย 2) เราคาดว่าการผลิตรถยนต์จะเติบโตที่ -18/+5/+8% และ EPS ของ SAT จะเติบโตที่ -42/+17/+15% ในปี 2024-26F และ 3) หลังจากราคาหุ้นปรับลง 40% จากจุดสูงสุดในปี 2023 PE ของปี 2025F อยู่ที่ 7.8 เท่า หรือเพียง 3.3 เท่า หากไม่รวมเงินสดสุทธิ พร้อมมีอัตราผลตอบแทนปันผลที่น่าสนใจที่ 8.9/10.3% ในปี 2025-26F SAT มีมูลค่าน่าสนใจเมื่อเทียบกับช่วงวิกฤตการเงินโลก (GFC) ในปี 2009 และช่วงโควิดที่ 0.6 เท่า P/BV

อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวในปีหน้า

การผลิตรถยนต์ยังคงอ่อนแอลงที่ -20% y-y ใน 3Q24F และ -18% ใน 9M24F ด้วยเศรษฐกิจที่อ่อนแอ, ราคารถยนต์ที่ลดลง, และนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด ยอดขายในประเทศทั้งรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายลดลง 24% y-y ใน 8M24 ขณะที่ยอดส่งออกลดลงเพียง 5% การส่งออกคิดเป็น 58% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด และยอดขายในประเทศคิดเป็น 42% ปัจจุบันเราคาดว่าการผลิตรถยนต์จะเติบโตที่ -18/+5/+8% ในปี 2024-26F ขณะที่คาดว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศจะเติบโตที่ -23/+12/+15% ในปี 2024-26F เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการปล่อยสินเชื่อที่ผ่อนคลายจากธนาคารในปีหน้า รวมถึงการใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ส่วนการเติบโตของการส่งออกคาดว่าจะอยู่ที่ -4/0/+3% ในปี 2024-26F จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

กำไรกลับมาเติบโตในปี 2025-26F

การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์มีโครงสร้างต้นทุนคงที่สูง เราคาดว่า SAT จะได้รับประโยชน์จาก operating leverage และคาดว่า EPS ของ SAT จะเติบโต -42/+17/+15% ในปี 2024-26F ปัจจัยผลักดันหลัก ได้แก่ 1) การเติบโตของการผลิตรถยนต์ที่ -18/+5/+8% ในปี 2024-26F 2) คำสั่งซื้อชิ้นส่วนใหม่จากรถรุ่นใหม่จำนวน 200 ลบ. หรือรายได้เพิ่มเติม 2% ต่อปี และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจาก 16.1% ในปี 2024F เป็น 17.2% ในปี 2026F จากผลของ operating leverage

ยังคงมีเงินสดสำหรับปันผลจำนวนมาก

แม้จะอ่อนแอในปี 2024F แต่เราคาดว่า SAT จะยังคงจ่ายปันผลในอัตราสูงที่ 68% ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 7.6% (ส่วนที่ยังไม่ได้จ่าย 5.5%) เราคาดว่ากำไรจะกลับมาฟื้นตัวเพื่อหนุนให้อัตราผลตอบแทนปันผลเพิ่มขึ้นเป็น 8.9/10.3% ในปี 2025-26F SAT มีเงินสดสุทธิอยู่ที่ 3.0 พันลบ. หรือ 7.1 บาท/หุ้น ใน 2Q24 เราคาดว่า EBITDA ของ SAT จะอยู่ที่ 1 พันลบ. – 1.3 พันลบ. ต่อปี ในปี 2024-26F เทียบกับค่าใช้จ่ายลงทุนเพียง 0.5 พันลบ. ต่อปี

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version