Equity Market Strategy 21 Nov 2024, 07:26

Siam Senses – ผลกระทบจากทรัมป์


Siam Senses ยังมอง SET ปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า แม้จะมีความเสี่ยงจากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ เราคงชอบกลุ่มอุตสาหกรรมเดิม โดยเปลี่ยนหุ้น Top Picks 2 ตัว โดยแทนที่ AOT และ SISB ด้วย CENTEL และ CBG

ผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์

มุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจของเราคือเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ จาก 1) นโยบายการคลังที่ผ่อนคลายแล้ว และสภาพทางการเงินที่จะเริ่มผ่อนคลายปีหน้า 2) การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง 3) การส่งออกทรงตัวแม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว และ 4) รอบการลงทุนที่แข็งแกร่งของ FDI ปัจจัยหนุนทั้ง 4 ข้อยังคงอยู่ถึงแม้มีความเสี่ยงสูงขึ้น การที่ทรัมป์ชนะอย่าขาดลอยจะเป็นความเสี่ยงที่สูงขึ้นต่อเศรษฐกิจจีนและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจกระทบต่อข้อ 2) และ 3) แต่ส่งผลบวกต่อข้อ 4) ด้วยมีการยื่นขอ FDI จำนวนมาก ข้อ 1) เป็นเรื่องภายในประเทศ การใช้จ่ายทางการคลังในประเทศดีขึ้นอย่างมาก แต่สามารถดีขึ้นได้กว่านี้หากมีมาตรการกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพ ส่วนความตึงตัวทางการเงินยังตึงมากอยู่ แม้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปครั้งนึงแล้ว ธนาคารยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ

รัฐบาลเผือกร้อน

นโยบายที่มุ่งเป้าสูงของพรรคเพื่อไทยสร้างความกังวลในตลาด ในด้านบวก นโยบายประชานิยมระยะสั้นดูจะเบาลง และมีการมุ่งไปที่โครงการที่เพิ่มมูลค่า เช่น ศูนย์รวมความบันเทิง (entertainment complex) การเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อปลดล็อกความต้องการอสังหาริมทรัพย์จากต่างชาติ ค่าบริการรถไฟฟ้าที่ต่ำ และแหล่งพลังงานใหม่ในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทยและกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ความพยายามเหล่านี้ทำให้เกิดความกังวลในตลาด 2 ประการ คือ 1) โครงการเหล่านี้ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานกว่าจะเห็นผล และ 2) การเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่อ่อนไหวหลายฉบับอาจทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลผสมสั่นคลอน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ คือจะไม่ค่อยส่งผลการกระตุ้น GDP ในช่วงสองปีข้างหน้า และก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาล แต่เรายังคงคาดว่ารัฐบาลจะยอมถอยหรือเลื่อนนโยบายใดๆ ที่อาจทำให้รัฐบาลล้ม

เห็น upside SET ที่ 1,580 จุดปีหน้า

เนื่องจากผลการดำเนินงาน 3Q24 ที่น่าผิดหวัง และเรามีมุมมองที่เป็นลบมากขึ้นต่อกลุ่มพลังงาน เราจึงปรับลดเป้าดัชนี SET ปี 2025F ลงเป็น 1,580 จาก 1,620 แต่เรายังคงมีมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่เป็นปัจจัยหนุนตลาดดังที่กล่าวข้างต้น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่เราชอบ คือ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมจากเรื่องราวการลงทุนของ FDI กลุ่มโทรคมนาคม จาก synergies ที่เกิดจากการรวมกิจการ และอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันน้อยลง ซึ่งทำให้กำไรสูงขึ้น กระแสเงินสดสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายลงทุนลดลง กลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากความต้องการที่แข็งแกร่งในสังคมผู้สูงอายุ กลุ่มค้าปลีกจากการฟื้นตัวของยอดขายสาขาเดิม และส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นของบริษัทใหญ่ กลุ่มท่องเที่ยว ในฐานะอุตสาหกรรมเมกะเทรนด์, และกลุ่มการเงินเพื่อการบริโภคจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง

ยังคงเน้นหุ้นคุณภาพ  

เนื่องจากไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในมุมมองของเราต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกลุ่มอุตสาหกรรมที่เราชอบ เราจึงยังคงหุ้น Top Picks ของเราเกือบทุกตัว โดยเปลี่ยนหุ้นเพียง 2 ตัว คือ AOT และ SISB โดยแทนที่ด้วย CENTEL และ CBG เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” AOT แต่มองว่า CENTEL  เติบโตสูงกว่า และมีมูลค่าที่ถูกกว่า ส่วน SISB เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” จากการเติบโตเชิงโครงสร้าง แต่ CBG มีเรื่องราวการฟื้นตัวของกำไรที่ใหม่กว่าและชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดใหญ่กว่า SISB

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version