Company Equity 9 Dec 2024, 23:28

BCPG (BUY) – ตัวเลือกราคาถูก –  Target Price Bt10.00, Price Bt5.60


เรายังแนะนำ “ซื้อ” BCPG โดยราคาหุ้นยังอยู่ใกล้จุดต่ำสุด แม้ผลกระทบจากการทยอยหมดอายุของ adders จะจบลงแล้ว ในขณะที่โครงการใหม่หนุนการเริ่มต้นของการเติบโตกำไรรอบใหม่ เรามองราคาหุ้นไม่แพงที่ PE 13 เท่า เทียบกับ EPS ที่คาดจะเติบโต 15% ต่อปีในช่วงปี 2025-2027F

ราคายังต่ำแต่กำไรเริ่มรอบการเติบโตใหม่ แนะนำ “ซื้อ”

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” BCPG โดยมองเป็นตัวเลือกราคาถูกของกลุ่มสาธารณูปโภค โดยราคาหุ้นยังอยู่ใกล้จุดต่ำสุดแม้ผลกระทบจากการทยอยหมดอายุของ adders จบไปแล้วใน 1Q24 ขณะที่โครงการใหม่ของบริษัทฯ เริ่มขับเคลื่อนการเติบโต EPS รอบใหม่ โดยเราคาดจะเติบโตได้ 28% ในปี 2024F และเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปีในช่วงปี 2025-27F เราจึงมองว่าราคาหุ้นของ BCPG นั้นไม่แพงที่ PE 13 เท่าบนปี 2025F ส่วนปัจจัยหนุนให้กำไรมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ได้ 1) การเริ่มดำเนินงาน (COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 แห่งในปี 2025F (การเข้าซื้อกิจการ 2 โครงการในเวียดนาม และการพัฒนาอีกโครงการหนึ่งในลาว) 2) ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 857 MW ในสหรัฐฯ จากภาวะอุปทานตึงตัว และ 3) การทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 479 MW ในไต้หวันระหว่างปี 2026-28 เราปรับประมาณการกำไรขึ้น 21/19% ในปี 2024-25F เพื่อสะท้อนสองปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ข้างต้น

โครงการใหม่ทยอยเริ่มดำเนินงาน

BCPG อยู่ระหว่างการเข้าซื้อหุ้น 100% ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมสองแห่งในเวียดนามรวมกำลังการผลิต 99MW ที่จะสมบูรณ์เมื่อโครงการทั้งสองเริ่ม COD ซึ่งคาดเป็นใน 1Q25 นอกจากนี้โรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ในลาวกำลังการผลิต 600 MW ที่ BCPG ถือหุ้น 48% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดจะ COD ได้ตามแผนใน 4Q25 โครงการทั้งสามจะเพิ่มกำลังการผลิตของ BCPG ขึ้น 33% เป็น 1.56 GW ในปี 2025F จาก 1.17 GW ในปี 2024F และเราคาดการทยอย COD ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่กำลังพัฒนาในไต้หวันชุดแรกจะเริ่มในปี 2026F ก่อนจะบรรลุเป้าหมายกำลังการผลิต 479 MW ได้ในปี 2028F ซึ่งช้ากว่าเป้าเดิมที่มองไว้ใน 4Q24 เนื่องจากปัญหาการจัดหาที่ดินและการขออนุญาต

ผลบวกจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ

BCPG เข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 4 แห่ง ในสหรัฐฯ รวมกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 857 MW ในระหว่างปี 2023 ซึ่งการรับรู้กำไรเต็มปีครั้งแรกจากโครงการดังกล่าวเป็นปัจจัยหลักในการฟื้นตัวกำไรของ BCPG ในปีนี้ เราคาดกำไรจากโครงการในสหรัฐฯ สูงขึ้นในปี 2025F จากการได้อัตราค่ารักษากำลังการผลิต (capacity payment, CP) ที่สูงขึ้นเป็นถึง US$270 ต่อ MW ต่อวัน (จากปัจจุบันที่ US$29) เป็นเวลา 12 เดือนตั้งแต่มิถุนายน 2025 จากสถาการณ์อุปทานฟ้าที่ตึงตัวในตลาด PJM ซึ่งโรงไฟฟ้าทั้ง 4 ดำเนินงานอยู่ เราจึงคาด CP จะยังสูงและมีโอกาสที่อัตรากำไร spark spread ของโครงการจะดีต่อเนื่องไปได้อีกหลายปี

บรรลุการเป็นบริษัทสีเขียว

BCPG เป็นบริษัทที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นลบ โดยมีโรงไฟฟ้าทั้งหมดในกลุ่มบริษัทมาจากพลังงานทดแทน จึงมีการขายคาร์บอนเครดิตซึ่งสร้างรายได้ให้ BCPG ได้รวม 65 ลบ. ในช่วงปี 2022-23 ขณะที่เราเชื่อว่าความต้องการคาร์บอนเครดิตที่สูงขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาขายและปริมาณขายเครดิตดังกล่าว ส่วนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ อยู่ในรูปแบบการถือหุ้นโดยอ้อม ซึ่ง BCPG มีแผนจะลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและระบบการกักเก็บพลังงานเพิ่มเติม เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากโรงไฟฟ้าก๊าซเหล่านี้

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version