Economics Equity 4 Apr 2025, 06:32

Economics – อัตราภาษีตอบโต้สูงกว่าที่คาดไว้มาก


  • อัตราภาษีที่ 37% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
  • การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น
  • การที่สหรัฐฯ พุ่งเป้าไปที่จีนส่งผลกระทบเชิงลบต่อไทย
  • คาดการเติบโตของ GDP จะลดลงประมาณ 1% ต่อปี 

News Update:

  • การปรับอัตราภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมา เหนือความคาดหมายสองประการ ประการแรก คือ อัตราภาษีที่สูงมากสำหรับประเทศไทยที่ 37% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 10-15% ประการที่สอง คือ การที่ภาษีมีเป้าหมายชัดเจนไปที่จีนและกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจากจีนเป็นซัพพลายเชนหลักของกลุ่มนี้ แทนที่จะพิจารณาจากอันดับของประเทศที่มีการเกินดุลการค้า แม้คาดว่าอัตราสุดท้ายน่าจะต่ำกว่า 37% อย่างมากหลังจากการเจรจาและการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงไม่ดีสำหรับประเทศไทยในหลายๆ ด้าน มีปัจจัยและการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นมากมาย แต่การประมาณการคร่าวๆ คือการเติบโตของ GDP จะลดลงประมาณ 1% ต่อปี จากการคาดการณ์ GDP ในปัจจุบันของเราที่ 3.0% ต่อปีในปี 2025-26F
  • เนื่องจากเป็นเศรษฐกิจแบบเปิด ประเทศไทยจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการมีการส่งออกที่สูง (60% ของ GDP) การท่องเที่ยว (9% ของ GDP) และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (6% ของมูลค่าการยื่นขอ BOI ต่อ GDP)
  • การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะรุนแรง เนื่องจากภาษีตอบโต้จะส่งผลกระทบทั่วโลก และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็จะได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นผลกระทบจะไม่จำกัดแค่การส่งออกไปยังสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบทางอ้อมจากการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ และการท่องเที่ยวด้วย
  • การที่สหรัฐฯ พุ่งเป้าไปที่จีนและอาเซียนนั้นจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อไทยมากกว่า ประการแรก จีน/ฮ่องกงคิดเป็น 15% ของการส่งออกทั้งหมด ขณะที่อาเซียนคิดเป็น 23% การชะลอตัวของประเทศเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยมากกว่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ (18%) ประการที่สอง จีน/ฮ่องกงคิดเป็น 21% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางมายังไทย และอาเซียนคิดเป็น 30% ประการที่สาม ภาษีนำเข้าที่สูงของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีนและอาเซียนอาจทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะมีการพิจารณาทบทวนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มายังไทยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าทิศทางของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง และจีนและเวียดนามได้รับผลกระทบจากอัตราภาษีรที่สูงกว่าไทยมาก แต่ถึงกระนั้น กระแสเงินทุนดังกล่าวน่าจะชะลอตัวลงจากภาวะชะลอตัวทั่วโลกที่รุนแรงขึ้น
  • เนื่องจากสถานการณ์ที่จำนวนการท่องเที่ยวใน 1Q25 ที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ทั้งที่ยังไม่เกิดผลกระทบจากภาษี ผลกระทบจากแผ่นดินไหวต่อการท่องเที่ยว ความเสี่ยงจากผลกระทบของภาษีต่อเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยอัตรานโยบายที่ 2.0% ตลาดจึงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะปรับลดอีกอย่างน้อย 2 ครั้งเหลือ 1.50% ในปีนี้ และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าจะปรับลดครั้งต่อไปในช่วงปลายเดือนนี้

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version