Company Equity 23 Apr 2025, 23:51

BBL (BUY) – ฝุ่นยังไม่จาง…แต่ไม่ได้แย่ไปทั้งหมด–Target Price Bt160.00, Price Bt136.00


  • BBL มองข้ามความผันผวน เชื่อว่าอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งและพร้อมรับมือ
  • กลยุทธ์การขยายตัวในระดับภูมิภาคของธนาคารยังคงเดินหน้าตามแผน
  • ธนาคารยังคงเป้าหมายทางการเงินสำหรับปี 2025 ไว้ตามเดิม…
  • …และคงจำนวนเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) ในปี 2024 ไว้เป็นระดับขั้นต่ำ

Analyst Meeting

  • BBL ยังคงประมาณการการเติบโตของ GDP ไทยในปีนี้ไว้ที่ 2% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารอื่น แต่เตือนถึงความเสี่ยงด้านลบจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอและราคาสินทรัพย์ที่ลดลง ธนาคารเชื่อว่าสงครามภาษีภายใต้การบริหารของทรัมป์อาจไม่รุนแรงอย่างที่กังวลในปัจจุบันเมื่อสถานการณ์เริ่มนิ่ง และคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 50 bps เป้าหมายทางการเงินยังคงเดิม และธนาคารมองว่าเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) ที่ 8.5 บาทสำหรับปี FY2024 เป็นระดับขั้นต่ำที่จะจ่าย
  • แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค: การส่งออกที่แข็งแกร่งได้รับแรงหนุนจากการเร่งเติมสต๊อกสินค้าก่อนการปรับขึ้นภาษี แต่ผลกระทบที่แท้จริงจะเริ่มปรากฏในช่วง 2H25 ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาทางการค้า ด้านการท่องเที่ยว คาดว่าจะชะลอตัวลงในช่วง 4 เดือนก่อนจะฟื้นตัว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีน่าจะต่ำกว่าที่คาดไว้ราว 1.5–2 ล้านคนขณะเดียวกัน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มูลค่าราว 1.2 ล้านลบ. ยังอยู่ในสถานะชะลอการตัดสินใจ โดย BBL ระบุว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งของพันธมิตรในอาเซียน และยกระดับการผลิตภายในประเทศเพื่อรองรับและชดเชยกับการไหลบ่าของสินค้าจากจีน
  • การเติบโตของสินเชื่อและคุณภาพสินทรัพย์: แม้ว่าจะมีการปล่อยสินเชื่อไปยังกลุ่มที่อ่อนไหวต่อมาตรการภาษี แต่ BBL ไม่คาดว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ NPLs และยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 3% โดยอ้างอิงจากดีลที่มี NPLs เพิ่มขึ้น 13% q-q ใน 1Q25 เนื่องจากมีลูกหนี้บางส่วนกลับมาเป็นหนี้เสียอีกครั้งในภาคการผลิตและการพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม การก่อตัวของ NPL รายใหม่เริ่มชะลอลง credit cost ส่วนใหญ่จะบันทึกไว้ล่วงหน้า (front-loaded) แต่ทั้งปีน่าจะยังคงอยู่ในกรอบ 1–1.2%
  • มาร์จิ้น และต้นทุนทางการเงิน: NIM หดตัวลง 23 bps ใน 1Q25 จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากที่ล่าช้า อีกทั้งยังมีการรับรู้ดอกเบี้ยกลับคืน (interest reversals) จากหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม BBL ยังคงเป้าหมายการหดตัวของ NIM ไว้ที่ 16–26 bps (2.8–2.9%) โดยคาดว่าจะมีแรงหนุนจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงในช่วงถัดไป ประมาณ 75% ของสินเชื่อในประเทศเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ส่วนสินเชื่อในต่างประเทศที่คิดเป็น 25% ของพอร์ตสินเชื่อ แบ่งเป็น 50% มาจาก Permata ซึ่งเชื่อมโยงกับอัตราดอกเบี้ยของอินโดนีเซีย และอีก 30% อยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) (ครึ่งนึ่งเป็น prime rate และอีกครึ่งเป็น SOFR)
  • การควบคุมค่าใช้จ่าย: ธนาคารยืนยันความพร้อมที่จะลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (opex) หากจำเป็น เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร
  • สรุปผลประกอบการ Permata Bank 1Q25: กำไรสุทธิลดลง 2.3% y-y เนื่องจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% y-y การเติบโตของสินเชื่ออยู่ในระดับปานกลางที่ 1.2% YTD โดยมีแรงหนุนหลักจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ NIM ลดลงเล็กน้อยเหลือ 4.2% จาก 4.4% ใน 1Q24 คุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วน NPL ที่ 2% และอัตราส่วน coverage ratio ปรับดีขึ้นเป็น 385% จาก 375% ใน 1Q24 อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝาก (loan-to-deposit ratio) อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ 83% ขณะที่อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ (cost-to-income ratio) ปรับดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 48.6% จาก 56%

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version