Equity Industries 30 Apr 2025, 04:30

Finance Sector  (Overweight) – MTC เป็นผู้นำกลุ่มใน 1Q25F


  • คาดว่ากำไรรวมจะเติบโต 3% y-y และ 1% q-q
  • MTC และ TIDLOR คาดว่าจะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
  • ขณะที่เรามองว่ากำไรของ SAWAD มีความเสี่ยงที่จะต่ำกว่าคาดการณ์
  • MTC ยังคงเป็นหุ้น TOP Pick ในกลุ่มของเรา

Earnings Preview

  • เราคาดว่ากำไรรวมของ 3 บริษัทไมโครไฟแนนซ์ที่เราทำบทวิเคราะห์จะอยู่ที่ 3.85 พันลบ. ใน 1Q25F เพิ่มขึ้น 3% y-y และ 1% q-q MTC และ TIDLOR น่าจะรายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง หนุนโดยการเติบโตของสินเชื่อ ค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลง และคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังอยู่ในระดับบริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม SAWAD มีแนวโน้มที่ยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากการฟื้นตัวของพอร์ตสินเชื่อช้ากว่าที่คาด
  • เราคาดว่าสินเชื่อของทั้ง MTC และ TIDLOR จะเติบโต 1.5% q-q ซึ่งหมายถึงการเติบโต y-y ที่ 14% และ 5% ตามลำดับ
  • สินเชื่อของ SAWAD คาดว่าจะหดตัวลง 2% q-q และลดลง 7% y-y เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ลดลง โดยเฉพาะในสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ปรับลดสัดส่วน LTV สำหรับสินเชื่อจำนำทะเบียน เพื่อรักษาคุณภาพของสินทรัพย์ ผู้บริหารมีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้น โดยตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปี 2025 ไว้ไม่เกิน 10% y-y เนื่องจากเริ่มต้นที่ค่อนข้างอ่อนแอใน 1Q25 ทำให้เป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีที่เราเคยคาดไว้ที่ 7% ดูสูงเกินไปในปัจจุบัน
  • คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อจะลดลง 30–40 bps q-q อันเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล โดยจำนวนวันทำการในไตรมาส 1 น้อยกว่าไตรมาส 4 ต้นทุนทางการเงินของ MTC อาจปรับเพิ่มขึ้น 5bps จากการปรับราคาแหล่งเงินกู้ และการใช้แหล่งเงินทุนที่มีระยะเวลายาวขึ้น
  • ต้นทุนทางการเงินของ TIDLOR คาดว่าจะทรงตัว ขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของ SAWAD คาดว่าจะทรงตัว q-q
  • การปรับลดอัตราดอกเบี้ยควรทำให้อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของหุ้นกู้ใหม่ลดลง เราคาดว่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนของการลดลงของต้นทุนทางการเงินในปี 2026 สำหรับทั้ง MTC และ TIDLOR
  • คุณภาพสินทรัพย์ยังคงอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ MTC คาดว่าจะเห็นการลดลงของ NPLs และ credit cost
  • NPLs ของ TIDLOR คงที่ โดยคาดว่า credit cost จะอยู่ที่ 3.1% (เทียบกับ 2.7% ใน 4Q24 และ 3.3% ใน 1Q24)
  • NPLs ของ SAWAD คาดว่าจะคงที่ในระดับที่ประมาณ 3.4 พันลบ. แต่อัตราส่วน NPL อาจเพิ่มขึ้นจาก 3.55% เป็น 3.6% เนื่องจากการหดตัวของสินเชื่อ การเคลียร์สินทรัพย์ในเชิงรุกในอดีตของ SAWAD ทำให้การขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ลดลงเหลือไม่เกิน 400 ลบ.
  • MTC ยังคงมุ่งสู่การทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น
  • การทำคำเสนอซื้อหุ้นของ TIDLOR เสร็จสิ้นในวันที่ 28 เมษายน 2025 ตัวย่อของหุ้นเดิมจะเปลี่ยนเป็น NTL และจะถูกถอดออกจากการจดทะเบียนในวันเดียวกับที่มีการจดทะเบียนใหม่ภายใต้บริษัท TIDLOR Holding Company โดยวันที่สุดท้ายรอการยืนยันจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • เราเห็นความเสี่ยงในด้านลบต่อกำไรของ SAWAD หากผลการดำเนินงานต่ำกว่าคาด 5% จะทำให้ PE ในปี 2025 อยู่ที่ 8.8 เท่า โดยการเติบโตของ EPS จะอยู่ที่เพียง 4%
  • มูลค่าหุ้นของ MTC สูงกว่าคู่แข่ง เนื่องจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการเติบโตที่เหนือกว่า MTC ยังคงเป็นหุ้น Top Pick ของเรา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version