Company Equity 4 June 2025, 03:56

CHG (BUY) – ผลกระทบจากการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ –Target Price Bt2.10, Price Bt1.56


การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ ปัจจุบันอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์การอนุมัติที่เข้มงวดมากขึ้นของสำนักงานประกันสังคม ดังนั้น เราจึงปรับกำไรของ CHG ลง 5/6/9% ในปี 2025-27F อย่างไรก็ตาม หลังราคาหุ้นปรับลงแล้ว 36% YTD มาซื้อขายที่ 17.2 เท่า PE เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” CHG

1Q25 อ่อนแอ ปรับลดกำไรลง

CHG รายงานกำไรสุทธิใน 1Q25 ที่ 225 ลบ. ลดลง 15% y-y ปัจจัยกดดันหลักคือรายได้จากการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ (Gastric sleeve) ที่ลดลง หลังจากกฎเกณฑ์การเบิกจ่ายภายใต้โครงการประกันสังคมที่เข้มงวดมากขึ้น เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2025-27F ลง 5/6/9% เพื่อสะท้อนปัจจัยนี้ นอกจากนี้ เรายังมีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นต่อโครงการโรงพยาบาลใหม่ที่ระยอง ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการต้นปี 2027 ส่งผลให้เราปรับราคาเป้าหมาย (ปีฐาน 2025) ลงเหลือ 2.10 บาท จาก 2.50 บาท อย่างไรก็ตาม เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับลงมากเพียงพอแล้วในมุมมองของเรา โดยปัจจุบันซื้อขายที่ 17.2 เท่า PE สำหรับหนึ่งในเครือโรงพยาบาลหลักของไทยที่มีจำนวนเตียงรวม 938 เตียง อีกทั้ง CHG ยังมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ 4/9/3% ในปี 2025-27F

กฎการเบิกจ่ายของประกันสังคมเข้มงวดขึ้น

กฎการเบิกจ่ายของโครงการประกันสังคมมีความเข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ (gastric sleeve) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้กำไรลดลงใน 1Q25 ในปี 2024 CHG มีรายได้ราว 400 ลบ. (คิดเป็น 5% ของรายได้รวม) จากการทำหัตถการนี้ โดยในจำนวนนี้ 70% มาจากผู้ป่วยประกันสังคม และ 30% มาจากผู้ป่วยเงินสด จำนวนการให้บริการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะลดลงเหลือราว 50 เคส/เดือน ใน 1Q25 เทียบกับราว 150 เคส/เดือน ในปี 2024 อย่างไรก็ตาม CHG คาดว่าจำนวนเคสจะฟื้นตัวใน 2H25F หลังผู้ป่วยผ่านการพยายามลดน้ำหนักตามข้อกำหนดของประกันสังคมเป็นระยะเวลา 6 เดือนก่อนเข้ารับการผ่าตัด

เนื่องจากผลกระทบด้านลบนี้คาดว่าจะยังคงอยู่ต่อเนื่องจนถึง 2Q25 เราจึงคาดว่าอัตราการเติบโตของรายได้ของ CHG จะชะลอลงเหลือเพียง 3% ในปีนี้ ก่อนจะดีขึ้นเป็น 6% และ 9% ในปี 206-27F ตามลำดับ

ยังคงเติบโตได้แม้เศรษฐกิจซบเซา
เราคาดว่า CHG ยังสามารถเติบโตได้แม้อยู่เศรษฐกิจจะอ่อนแอ โดยคาดว่า EPS จะเติบโตที่ 4/9/3% ในปี 2025-27F ธุรกิจของ CHG มีลักษณะ defensive เนื่องจากความต้องการด้านการรักษาพยาบาลมีความยืดหยุ่นสูง และ CHG เน้นให้บริการกลุ่มรายได้ปานกลางถึงต่ำ นอกจากนี้    บริษัทฯ ยังมีชื่อเสียงในฐานะเครือโรงพยาบาลที่แข็งแกร่ง และมีขนาดใหญ่ โดยมีจำนวนเตียงรวม 938 เตียง ณ สิ้น 1Q25 แม้มีความเสี่ยงจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ แต่เราคาดว่าพื้นที่ EEC จะยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์ทั้งในด้านนิคมอุตสาหกรรม และแหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยา โดยเครือโรงพยาบาลของ CHG ตั้งอยู่ตามแนวพื้นที่ตั้งแต่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกไปจนถึงพื้นที่ EEC

ฐานะการเงินแข็งแกร่ง พร้อมให้อัตราผลตอบแทนปันผลที่ดี

CHG เป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินมั่นคง CHG ยังคงมีสถานะเป็นเงินสดสุทธิ โดยมี EBITDA ที่มั่นคงอยู่ที่ราว 1.9 พันลบ. ต่อปี ซึ่งเพียงพอสำหรับรองรับแผนการลงทุน (capex) ประมาณ 1 พันลบ. ต่อปีในปี 2025-27F เราคาดว่าบริษัทฯ จะคงอัตราการจ่ายเงินปันผลไว้ที่ 80% ซึ่งจะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผล (dividend yield) ที่ประมาณ 4.7% และ 5.1% ในปี 2025-26F ตามลำดับ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version