Company Equity 11 July 2025, 11:17

SCC (SELL) – คาด 2Q25F จะเป็นจุดสูงสุดของปี 2025 – Target Price Bt110.00, Price Bt170.50


  • กำไร 2Q25F คาดว่าจะเพิ่มขึ้น q-q โดยหลักมาจากรายได้เงินปันผล
  • กำไรที่ไม่ใช่เงินสดจาก CAP ไม่น่าจะช่วยหนุนการจ่ายปันผล
  • กำไรน่าจะลดลงใน 2H25F
  • คงคำแนะนำ “ขาย”

Earnings Preview:

  • ตามการอัพเดตล่าสุดของ SCC เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q25F อยู่ที่ 3 พันลบ. (+177% q-q, -18% y-y) ซึ่งได้แรงหนุนจากรายได้ปันผลตามฤดูกาล และมาร์จิ้นของธุรกิจเคมิคอลที่ปรับตัวดีขึ้น โดยประมาณการของเราไม่รวมกำไรที่ไม่ใช่เงินสดจาก Chandra Asri เราเชื่อว่า 2Q25F จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เนื่องจาก petrochemical spreads อาจอ่อนตัวลงใน 2H25 จากอุปสงค์การเติมสต๊อกที่ลดลง และปริมาณ CBM ที่ลดลงตามฤดูกาล ยังคงคำแนะนำ “ขาย”
  • ผลขาดทุนของธุรกิจเคมิคอลลดลง q-q เราคาดว่าธุรกิจเคมิคอลของ SCC จะรายงานผลขาดทุนที่ลดลงเหลือประมาณ 2 พันลบ. ใน 2Q25F (เทียบกับขาดทุน 2.9 พันลบ. ใน 1Q25) โดยได้แรงหนุนจาก product spreads ที่ดีขึ้นจากราคาน้ำมันที่ลดลง และการเติมสต๊อกล่วงหน้าก่อนมาตรการภาษีที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ทั้งนี้คาดว่าขาดทุนจากสต๊อกจะอยู่ที่ประมาณ 700 ลบ. ใน 2Q25F เทียบกับขาดทุน 88 ลบ. ใน 1Q25
  • กำไรจากธุรกิจ CBM ลดลง q-q เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล คาดว่ากำไรจาก CBM จะอยู่ที่ 1.8 พันลบ. ลดลง 24% q-q แต่เพิ่มขึ้น 12% y-y การลดลง q-q สะท้อนถึงความต้องการซีเมนต์ที่ลดลงตามฤดูกาล ขณะที่การเพิ่มขึ้น y-y มาจากการปรับขึ้นราคาซีเมนต์ 400–600 บาทต่อตัน ซึ่งประกาศในเดือนมีนาคม 2025 โดย SCC คาดว่าจะได้รับประโยชน์สุทธิประมาณ 100 บาทต่อตัน
  • ยังไม่รวมกำไรที่ไม่ใช่เงินสดจาก Chandra Asri: ประมาณการ 2Q25F ของเรายังไม่รวมกำไรที่ไม่ใช่เงินสดที่อาจเกิดขึ้นจากการถือหุ้น 30.57% ของ SCC ใน Chandra Asri โดยคาดว่ากำไรเหล่านี้จะมาจาก 2 แหล่ง ได้แก่ (i) การปรับมูลค่าความนิยม (goodwill) ที่เกี่ยวกับโครงการ Aster ของ CAP ในสิงคโปร์ และ (ii) กำไรหรือขาดทุนจากการเปลี่ยนประเภทการลงทุนใน Chandra Asri จากบริษัทร่วมเป็นการลงทุนอื่น เนื่องจาก SCC มีแผนจะขายหุ้นออก 10.57% ทั้งสองรายการนี้เป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด จึงไม่น่าจะสนับสนุนให้มีการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น
  • อัพเดตโครงการ LSP: HDPE–naphtha spreads ปรับตัวดีขึ้นเป็น US$373/tonne  ในเดือนกรกฎาคม 2025 จากระดับ US$320/tonne ใน 1Q25 ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ในการกลับมาเดินเครื่องโรงงาน Long Son Petrochemical (LSP) โดย SCC ตั้งเป้าเริ่มเดินเครื่องในเดือนก.ย. 2025 และขณะนี้มี feedstock แล้ว
  • การเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุลยังคงเป็นเป้าหมายหลัก: SCC ยังคงมุ่งเน้นการลดหนี้ โดยตั้งเป้าลดอัตราหนี้สุทธิต่อ EBITDA ให้ต่ำกว่า 3 เท่า (จาก 5.4 เท่า ใน 1Q25) ซึ่งจะได้รับแรงสนับสนุนจากการปรับลดงบลงทุนปี 2025 ลงเหลือ 3.0 หมื่นลบ. (จาก 5.5 หมื่นลบ. ในปี 2024) และการขายสินทรัพย์ ทั้งนี้ ผู้บริหารยังยืนยันความมุ่งมั่นในการรักษาอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version