Company Equity 15 Sept 2025, 17:09

KBANK (BUY) – มีโอกาสจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นอีก –Target Price Bt190.00, Price Bt167.50


เราปรับคำแนะนำ KBANK เป็น “ซื้อ” จาก ถือ ด้วยงบดุลที่แข็งแกร่ง  ธนาคารจึงพร้อมรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ และสามารถคว้าโอกาสเติบโตในช่วงฟื้นตัวได้อย่างมั่นคง ทุนที่แข็งแกร่งและส่วนของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่งรองรับการจ่ายเงินปันผลขั้นต่ำที่ 12 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนราว 7% พร้อมทั้งมี upside ที่ชัดเจน

ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

บทวิเคราะห์นี้เป็นส่วนหนึ่งของบทวิเคราะห์กลุ่มธนาคาร “ผลตอบแทนมั่นคงในช่วง NIM ขาลง” วันที่ 12 กันยายน 2025 เราปรับคำแนะนำ KBANK จาก ถือ เป็น “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 190.0 บาท (จาก 153.0 บาท) จากการปรับมาใช้ปีฐาน 2026F และปรับกำไรปี 2025-27F ขึ้น 2/6/15% จากสมมติฐาน NIM ที่สูงขึ้น และกำไรจากการลงทุนที่ดีกว่าคาด 1) เราคาดว่า DPS จะยังอยู่ที่ 12.0 บาท ในปี 2025-27F และมีโอกาสเพิ่มขึ้นหาก KBANK ตัดสินใจจ่ายปันผลพิเศษจากเงินทุนส่วนเกิน 2) หลังปรับโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อ SME และล้างงบดุลครั้งใหญ่ ธนาคารจึงอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการจับโอกาสเติบโตเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว เราคาดว่า KBANK จะเป็นผู้นำกลุ่มฯ ด้วยมี EPS เติบโตที่ 7% ในปี 2027F และ 3) ที่ 2026F P/BV ที่ 0.6 เท่า และ ROE ที่ 7.9% KBANK นั้นไม่แพง

มีโอกาสปรับเพิ่มปันผลที่ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว

ในกรณีฐานของเรา เราคาดว่า KBANK จะจ่ายเงินปันผลที่ 12.0 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 7% ต่อปี ในปี 2025-27F แต่หาก KBANK มีนโยบายบริหารทุนที่เชิงรุกมากขึ้น ก็มีโอกาสจ่ายปันผลเพิ่มได้ เนื่องจาก 1) KBANK จ่ายปันผลในอัตราเพียง 56-60% ในปี 2025–27F 2) อัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 แข็งแกร่งมากที่ 17.7% ณ 2Q25 เทียบกับเป้าที่มากกว่า 15% (ภายใต้ Basel III ใหม่) ซึ่งหมายความว่า KBANK มีเงินกองทุนส่วนเกินราว 0.7% ซึ่งเท่ากับ 7.8 บาท/หุ้น ซึ่งทำให้มีโอกาสจ่ายปันผลเพิ่มเติมสูงสุดที่ 5% yield ทั้งนี้ KBANK ยังคงเป้า ROE ในระดับเลขสองหลักเทียบกับ 8.4% ในปี 2025F ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารอาจมีการจ่ายปันผลพิเศษหรือซื้อหุ้นคืนเพิ่มเติมในอนาคต

พอร์ตสินเชื่อที่สมดุล พร้อมต่อยอดการเติบโต

KBANK ได้ลดการพึ่งพาสินเชื่อ SME ลง และได้ขยายพอร์ตสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้ารายย่อย และกลุ่มประเทศ AEC ต่อเนื่อง โดยจากระดับสูงสุดที่ 39% ของพอร์ตสินเชื่อรวมในปี 2016 สัดส่วนสินเชื่อ SME ได้ลดลงมาอยู่ที่ 26% ใน 2Q25 และที่เหลือประกอบด้วย สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ 41%, สินเชื่อรายย่อย 29%, และสินเชื่ออื่นๆ รวมถึงต่างประเทศ 4% นอกจากนี้ KBANK ยังได้ดำเนินการล้างงบดุลครั้งใหญ่ในปี 2024 ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพสินทรัพย์ให้แข็งแกร่งขึ้นมาก ด้วยพอร์ตสินเชื่อที่กระจายตัวอย่างสมดุลและหลากหลาย เราเชื่อว่าโครงสร้างพอร์ตของ KBANK มีความพร้อมในเชิงโครงสร้างที่จะรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ผู้นำในการฟื้นตัวของกลุ่มธนาคาร

เราคาดว่าปี 2026F กำไรของกลุ่มธนาคารจะเผชิญกับแรงกดดันอย่างเต็มปีจากผลของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ตาม KBANK อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าในการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับธนาคารใหญ่อื่น โดยเราคาดว่า KBANK จะมี EPS เติบโต 7% ในปี 2027F เนื่องจาก LDR ที่ต่ำ และฐานเงินฝาก CASA ที่สูง ซึ่งทำให้ KBANK สามารถนำสภาพคล่องส่วนเกินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทน เพื่อชดเชยผลของ NIM ที่ลดลง นอกจากนี้ เรายังคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะเติบโตปานกลาง โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมการชำระเงิน ซึ่งได้แรงหนุนจากแพลตฟอร์ม K PLUS ที่มีผู้ใช้งาน 23.4 ล้านราย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version