Equity Industries 17 Oct 2025, 11:49
Energy Drink (NEUTRAL) – OSP จะทำผลงานดีกว่าที่คาด ส่วน CBG น่าจะพลาดเป้า
- เรื่องเดิมๆ แต่ความเสี่ยงต่างกัน
- OSP: มีสัดส่วนเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศที่ยังแข็งแกร่งมากกว่า
- CBG: มีสัดส่วนส่งออกที่ยังอ่อนแอมากกว่า
- แนะนำ “ซื้อ” OSP หากราคาย่อตัว และมองว่า CBG มีความเสี่ยง
News Update
- เราคาดการณ์ผลการดำเนินงาน 3Q25F ของหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง 2 ตัวที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเรา โดยคาดว่า OSP จะรายงานกำไรออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ ขณะที่ CBG น่าจะต่ำกว่าคาด ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศยังคงแข็งแกร่งสำหรับทั้งสองบริษัท และ OSP มีสัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศมากกว่า ทั้งสองบริษัทกำลังเผชิญปัญหาในตลาดส่งออก แต่ CBG มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงกว่า
- OSP
- เราคาดว่า OSP จะมีกำไร 3Q25F อยู่ที่ราว 690 ลบ. เพิ่มขึ้น 3% y-y กำไรลดลง 32% q-q เป็นผลจากฤดูกาลที่อ่อนตัวลงในช่วงหน้าฝนในตลาดส่งออกหลัก เช่น เมียนมา
- EBIT ของ OSP คาดว่าจะมาจาก เครื่องดื่มในประเทศประมาณ 45%, ส่งออกเครื่องดื่มชูกำลัง 40%, และรายได้อื่นๆ 15% ธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทน่าจะเติบโตในระดับเลขหลักเดียวกลางๆ (mid-single digit) เมื่อเทียบ y-y และ q-q OSP มีแนวโน้มกลับมาเติบโต y-y หลังจากลดลงต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดต่อกัน เนื่องจากการกลับมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังขนาด 10 บาทต่อขวด ไปอยู่ในพอร์ตผลิตภัณฑ์ราคา 12 บาทต่อขวด ช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้ โดยไม่ก่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง
- อัตรากำไรของ OSP มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นด้วย ด้วยไม่มีการแข่งขันด้านราคาในเชิงรุก OSP จึงสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดได้ นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย
- จุดอ่อนยังคงอยู่ที่ตลาดส่งออก ทั้งในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ซึ่งคาดว่าจะลดลงในระดับเลขสองหลักต้นๆ เมื่อเทียบ y-y การลดลงในรายไตรมาสเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาลตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ในตลาดหลักอย่างเมียนมา ซึ่งตัวแทนจำหน่ายของ OSP ชะลอการสั่งซื้อในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม เนื่องจากการบริโภคในประเทศอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม มีการกลับมาสั่งซื้ออีกครั้งในเดือนกันยายน นอกจากนี้ยังมีปัญหาเล็กๆ ในตลาดขนาดเล็ก เช่น กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งกับไทย และในอินโดนีเซียที่เกิดความไม่สงบทางสังคม อย่างไรก็ดี จุดอ่อนในตลาดส่งออกเหล่านี้ ถูกชดเชยด้วยผลประกอบการในประเทศที่แข็งแกร่งและการประหยัดต้นทุน
- CBG
- เราคาดว่า CBG จะมีกำไรอยู่ที่ 640 ลบ. ลดลง 14% y-y และลดลง 20% q-q กำไรมีแนวโน้มต่ำกว่าที่เราคาดไว้ เนื่องจากยอดขายในกัมพูชาที่อ่อนแอกลบผลบวกจากตลาดในประเทศที่ยังแข็งแกร่ง
- EBIT ของ CBG คาดว่าแบ่งเป็นเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศประมาณ 36% การส่งออก 49% และการจัดจำหน่ายสินค้าของบุคคลที่สามและการผลิตขวด OEM ประมาณ 15% ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศยังมีแนวโน้มเติบโตในระดับเลขสองหลัก เนื่องจาก CBG ซึ่งเป็นผู้เล่นรายเดียวที่ยังคงขายในราคาขวดละ 10 บาท ยังคงสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดได้ต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่มาจาก Red Bull Thailand ซึ่งเป็นผู้เล่นรายเดียวที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์หลักในราคาขวดละ 12 บาท ธุรกิจจัดจำหน่ายสุราและผลิตขวดแบบ OEM มีแนวโน้มเติบโต
- ในระดับเลขสองหลักเช่นกัน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ลูกค้าของ CBG ยังคงเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ OSP, CBG ได้ปรับลดค่าใช้จ่ายด้านการขายลง เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในปัจจุบันมีการแข่งขันที่ไม่รุนแรงเท่าเดิม
- อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกเครื่องดื่มชูกำลังของ CBG มีแนวโน้มลดลงในระดับเลขสองหลักปลายๆ สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งระหว่างไทย–กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าของบริษัทมากกว่าที่คาดไว้ CBG เป็นผู้เล่นในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังรายใหญ่ที่สุดในกัมพูชา โดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 70% จึงได้รับผลกระทบรุนแรงกว่า OSP
- โดยรวมแล้ว เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”OSP ราคาหุ้นของ OSP ปรับตัวลงมาแล้ว 18% จากจุดสูงสุดของปีนี้ เนื่องจากตลาดกังวลเกี่ยวกับความอ่อนแอใน 3Q25 จากการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าผลการดำเนินงาน 3Q25 ที่น่าจะออกมาดีกว่าคาด จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น ในระยะยาว เรามองว่า OSP เป็นบริษัทที่เติบโตอย่างมั่นคง และให้อัตราผลตอบแทนปันผลที่น่าสนใจถึง 7% ในปี 2025–26F
- สำหรับ CBG เราเห็นว่าความเสี่ยงด้านขาลง เนื่องจากสถานการณ์ในกัมพูชาน่าจะรุนแรงกว่าที่คาดไว้
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……
