Food Sector (Neutral) – ใช้ความสามารถของตนเอง
บริษัทอาหารและเครื่องดื่มของไทยกำลังเผชิญกับความต้องการที่อ่อนแอทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ เราชอบบริษัทที่มีความต้องการซื้อเปลี่ยนแปลงน้อย (inelastic demand) มีความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่ง และมูลค่าที่น่าสนใจ ITC KCG และ OSP เป็น Top Picks ของเรา
ใช้ความสามารถของตนเอง; “NEUTRAL “
เราให้น้ำหนักลงทุนเป็น “NEUTRAL” กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากความต้องการโดยรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศยังค่อนข้างอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม เราเห็นโอกาสการลงทุนในบริษัทที่: 1) ความต้องการในผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง 2) อยู่ในช่วงลดต้นทุน และ 3) มูลค่าไม่แพง และให้ผลตอบแทนที่ดี ITC และ KCG ตอบโจทย์ทั้งหมดนี้และเป็นหุ้น Top Picks ของเรา ที่ OSP เป็น Top Pick เช่นกัน ในฐานะที่ราคาหุ้นตกต่ำที่สุดด้วยมีการประหยัดต้นทุนมาก และมีอัตราผลตอบแทนปันผลสูงที่สุดในกลุ่ม
Check list #1 – ความต้องการ
เรามองความต้องการที่แข็งแกร่งขึ้นในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเฉพาะทาง ซึ่งมีความต้องการซื้อเปลี่ยนแปลงน้อย ITC เป็นหนึ่งในสามผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง OEM ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะอาหารแมว Human-grade ที่เสริมคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ต่อสินค้าจากจีนที่สูงขึ้น ยังทำให้ไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นในตลาดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง ส่วน KCG การปรับเปลี่ยนธุรกิจจากอาหารตะวันตกเข้าสู่ตลาด FMCG สำหรับอาหารและขนมก็ช่วยให้บริษัทขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น
Check list #2 – ปรับลดต้นทุน
บริษัทส่วนใหญ่อยู่ในโหมดการปรับลดต้นทุน ซึ่งกำไรของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดต้นทุน ได้แก่ ITC, KCG, OSP และ TU โดย ITC และ TU เริ่มเห็นการประหยัดต้นทุนจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ KCG กำลังปรับโรงงานให้เป็นระบบอัตโนมัติแทนการพึ่งพากำลังคน OSP ตัดจำหน่ายการลงทุนในโรงงานผลิตแก้วในเมียนมาร์ และเริ่มเน้นการลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเพิ่มเติมจนถึงปี 2026F
Check list #3 – มูลค่า และอัตราผลตอบแทนปันผล
โดยเฉลี่ยแล้ว ราคาหุ้นของบริษัทที่เราทำบทวิเคราะห์ลดลง 50% จากจุดสูงสุดในปี 2021 และ 33% YTD ที่ราคาปัจจุบัน เรามองว่า ITC มีมูลค่าที่ดีที่สุดที่ PE ที่ 14 เท่า ในปี 2026F เทียบกับ EPS ที่เติบโต 25/14% ในปี 2026-27F และให้อัตราผลตอบแทนปันผลที่ 4.9/6.2% ในปี 2025-26F KCG ก็อยู่ในกลุ่มนี้ โดยซื้อขายที่ 2026F PE ที่ 8 เท่า เทียบกับ EPS ที่เติบโต 11/9% ในปี 2026-27F และให้อัตราผลตอบแทนปันผลที่ 6.0/6.7% ในปี 2025-26F OSP ให้ผลตอบแทนปันผลสูงถึง 7.7/7.1% ในปี 2025-26F ปัจจุบันเราปรับคำแนะนำ TU จาก ขาย เป็น “ถือ” จากการประหยัดต้นทุนจากการปรับโครงสร้างธุรกิจเริ่มมีผล และมีอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 5.6/5.5% ในปี 2025-26F แต่เรามองว่า 2026F PE ที่ 11 เท่า ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……
