Company Equity 25 June 2024, 17:22

GPSC (BUY) – ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของ SPP –  Target Price Bt57.00, Price Bt48.75


เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” GPSC ด้วยมีเรื่องราวการฟื้นตัวของโรงไฟฟ้า SPP และการเติบโตโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศ เรามอง GPSC เป็นตัวเลือกการลงทุนพลังงานทดแทนที่ดีที่สุดในกลุ่มฯ โดยสัดส่วนกำไรพลังงานทดแทนเพิ่มเป็นเกือบครึ่งของฐานกำไรปี 2028F จาก 23% ในปีนี้

มีเรื่องราวการฟื้นตัวของกำไร

บทวิเคราะห์นี้เป็นส่วนหนึ่งของบทวิเคราะห์กลุ่มสาธารณูปโภคไทย “PDP ใหม่เป็นปัจจัยหนุน” วันที่ 26 เมษายน 2024 เรายังแนะนำ “ซื้อ” GPSC ซึ่งเป็นอีก Top Pick ในกลุ่มฯของเรา ร่วมกับ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF “ซื้อ”) บนการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง โดยเราคาด GPSC จะมี EPS เติบโต 28/49/15% ในปี 2024-26F หนุนโดย 1) อัตรากำไรโรงไฟฟ้า SPP ที่กลับสู่ปกติจากการอุดหนุนราคาค่าไฟฟ้าและราคา pool gas ลดลง และ 2) กำไรที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ลงทุนไว้ในต่างประเทศ ดูบทวิเคราะห์ GPSC “ฟื้นตัวแข็งแกร่ง” วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2024 ประมาณการกำไรของเรายังอิงเฉพาะจากโครงการที่มี อยู่ในปัจจุบัน และยังไม่ได้รวมโอกาสการเติบโตจาก PDP ใหม่ เราปรับกำไรปี 2024-26F ลง 3/8/3% จากราคาพลังงานโลกที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ราคาเป้าหมาย (ปี 2024F) จึงลดเหลือ 57 บาท (จากเดิม 58 บาท)

SPP มีความเสี่ยงด้านนโยบายที่ลดลง

SPP คิดเป็น 35% ของกำลังการผลิตรวมของ GPSC และ 60% ของฐานกำไร ในปี 2023 แต่หลังจากราคา pool gas เริ่มปรับลดลงตามราคาพลังงานโลกที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ หลังปรับขึ้นอย่างมากในปี 2022 รวมถึงการเปลี่ยนสูตรราคา pool gas เพื่อลดต้นทุนราคาก๊าซในประเทศให้ลดลง เราคาดว่ากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า SPP ของ GPSC จะอยู่ที่ 1.2/1.2 บาท/kWh ในปี 2024-25F (เทียบกับ 0.4/0.9 บาท ในปี 2022-23) ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมา ความเสี่ยงด้านนโยบายของโรงไฟฟ้า SPP เกิดจากการที่รัฐบาลตรึงราคาไฟฟ้า แม้ต้นทุนเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นมาก แต่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเรามองว่าความเสี่ยงด้านนโยบายดังกล่าวถูกผลักไปยังผู้จำหน่ายก๊าซธรรมชาติ (เช่น กลุ่ม ปตท.) มากขึ้น ผ่านการปรับโครงสร้างราคาก๊าซและเราเชื่อว่ารัฐบาลยังหาแนวทางในการลดราคาก๊าซในประเทศลงอีก

มีสัดส่วนพลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้น

เราคาดกำลังการผลิตจากพลังงานทดแทนจะคิดเป็น 62% ของกำลังการผลิตรวมของ GPSC และ 42% ของฐานกำไรในปี 2028F เราคาดโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวันขนาด 149MW ตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ จะสร้างกำไรได้ 0.9/1.5 พันลบ. ในปี 2024-25F หลังดำเนินงานได้เต็มกำลังการผลิตตั้งแต่ 3Q24F และคาด Avadaa Energy ที่ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดียซึ่ง GPSC ถือหุ้น 43% จะขยายกำลังการผลิตได้ตามเป้าหมายที่ 11GW และสร้างกำไรได้ 2.2 พันลบ. ในปี 2028F (จาก 0.5 พันลบ. ในปี 2024F) โครงการพลังงานทดแทนเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักหนุนกำไรของ GPSC ในช่วงสามปีข้างหน้า

มี Upside จาก PDP ใหม่

เราคาดว่า GPSC จะเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานทดแทนในประเทศ ทั้งแผนการประมูล PPAs พลังงานทดแทน 3.6GW ที่จะเกิดขึ้นภายในปี 2025F ทั้งนี้ GPSC ได้ PPA มาเพียง 8MW จากการประมูลโครงการ ‘RE Proposal’ ครั้งก่อน (จากโควตา 5.2GW) ในปี 2023 แต่ด้วยโควตา PPA ที่มากขึ้นจาก PDP ใหม่ เราคาดว่า GPSC จะชนะ PPA มากขึ้นจากการประมูลโควตาพลังงานทดแทนเดิมอีก 3.6GW ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ และอีก 28GW จาก PDP ใหม่ ซึ่งเรายังคงไม่รวมในตัวเลขของเรา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version