AOT (SELL) – เริ่มต้นการเจรจาต่อรองสัญญาของคิง เพาเวอร์ – Target Price Bt30.00, Price Bt29.75

- KPD ขอให้ AOT เจรจาต่อรองสัญญาร้านค้าปลอดอากรใหม่
- AOT คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน
- KPD ขอให้ AOT เรียกเก็บส่วนแบ่งรายได้เพียง 20% ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
- ความเสี่ยงยังคงสูง คงคำแนะนำ “ขาย”
News Update
- ตามรายงานจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี (KPD) ได้ร้องขอต่อบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เพื่อขอหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการยุติสัญญาสัมปทานร้านค้าปลอดอากรในสนามบินภูมิภาค 3 แห่ง ได้แก่ สนามบินภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง การใช้จ่ายต่อหัวที่อ่อนแอ ขณะที่การจ่ายเงินประกันขั้นต่ำตามสัญญากลับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทประสบภาวะขาดทุนอย่างมาก โดยนางสาวปวีณา รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ของ AOT จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการในวันที่ 16 มิถุนายน 2025 และคาดว่าจะได้ข้อสรุปร่วมกับคิง เพาเวอร์ ภายในระยะเวลา 2 เดือน
- ในระหว่างช่วงการเจรจา คิง เพาเวอร์ยังได้ขอให้ AOT เรียกเก็บเพียง 20% ของรายได้ โดยไม่พิจารณาจากรายได้ประกันขั้นต่ำ (ซึ่งปัจจุบันใช้วิธีคิดจากส่วนแบ่งรายได้หรือยอดรายได้ประกันขั้นต่ำ แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า)
- นอกเหนือจากสัญญาที่สนามบินทั้งสามแห่งดังกล่าวแล้ว เราเชื่อว่าคิง เพาเวอร์ต้องการเจรจาใหม่เกี่ยวกับสัญญาธุรกิจดิวตี้ฟรีที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วย ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของธุรกิจดิวตี้ฟรีของบริษัท และกำลังประสบภาวะขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ
- ในความเห็นของเรา เนื่องจากธุรกิจดิวตี้ฟรีเป็นธุรกิจหลักของคิง เพาเวอร์ เราไม่คิดว่าบริษัทต้องการจะยุติการดำเนินงานในส่วนนี้ แต่เชื่อว่าคิง เพาเวอร์ต้องการเจรจาเพื่อลดจำนวนรายได้ประกันขั้นต่ำตามสัญญาที่ต้องจ่ายมากกว่า ในปี FY24 AOT ได้รับรายได้ประกันขั้นต่ำตามสัญญาจากคิง เพาเวอร์รวม 1.3 หมื่นลบ. โดยแบ่งเป็น 1.1 หมื่นลบ. จากธุรกิจดิวตี้ฟรีที่สนามบินสุวรรณภูมิ และอีก 2.0 พันลบ. จากสนามบินดอนเมืองและสนามบินภูมิภาค
- เรายังไม่ได้รวมความเสี่ยงนี้เข้าไปโดยตรงในประมาณการกำไรของเรา แต่เราได้สะท้อนความเสี่ยงนี้ในการคำนวณมูลค่า DCF โดยตัดจำนวนเงิน 6.2 หมื่นลบ. ออกจากประมาณการกระแสเงินสดในอนาคตของ AOT จำนวนเงินนี้สมมติว่ามีการลดค่าตอบแทนขั้นต่ำ (MAG) ของคิง เพาเวอร์ลง 27% สำหรับทั้งสัญญาสัมปทานร้านค้าปลอดอากรและการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ ให้เหลือในระดับที่ผู้เสนอราคาต่ำสุดเคยเสนอมาเมื่อตอนที่ AOT เปิดประมูลในปี 2019 (ดูบทวิเคราะห์ “มีความเสี่ยงหลายประการ” เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2025) หากเราสมมติการลดค่าตอบแทนขั้นต่ำของคิง เพาเวอร์ลง 27% ในประมาณการกำไร จะทำให้ประมาณการกำไรของ AOT ลดลง 15% เหลือ 1.7 หมื่นลบ. (จาก 2.0 หมื่นลบ.) ในปี FY26F และเหลือ 1.8 หมื่นลบ. (จาก 2.1 หมื่นลบ.) ในปี FY27F
- เนื่องจากการเจรจาระหว่าง AOT กับคิง เพาเวอร์ยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่ PE อยู่ที่ 26 เท่า (คำนวณจากกำไร 1.7 หมื่นลบ. ในปี FY26F) และ 24 เท่า (คำนวณจากกำไร 1.8 หมื่นลบ. ในปี FY27F) ซึ่งถือว่าไม่น่าสนใจ เราจึงยังคงคำแนะนำ “ขาย”
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……