Equity Industries 19 June 2025, 20:40

Bank Sector (Neutral) – สามผู้ผ่านการพิจารณาให้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา


  • กลุ่ม KTB และ SCBx ได้รับใบอนุญาตตามที่คาดไว้
  • เราไม่คิดว่า Virtual Bank  จะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อภาพรวมตลาดธนาคารไทย
  • ขนาดการลงทุนที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้ความเสี่ยงด้านลบมีจำกัด
  • แต่ก็ไม่ได้มีปัจจัยบวกที่มีนัยสำคัญเช่นกัน โดย KTB ยังเป็น Top Pick ของเรา

News Update

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) จำนวน 3 ราย:
  • 1) กลุ่มธนาคารกรุงไทย (Gulf, AIS, และ PTT OR)
  • 2) กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB+Kakao Bank จากเกาหลีใต้ + WeBank จากจีน)
  • 3) กลุ่มแอสเซนด์ มันนี่ (TrueMoney, CP Group, และ Ant Group)
  • กลุ่มที่ได้รับอนุมัติจะมีเวลาหนึ่งปีในการจัดตั้งและเริ่มดำเนินการ
  • ผลออกมาสอดคล้องกับที่คาดไว้ และเรายังคงมุมมองว่าการเปิดตัว Virtual Bank จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาพรวมตลาดธนาคารในประเทศไทย
  • ประการแรก Virtual Bank ไม่ได้มีความแตกต่างมากนักจากแพลตฟอร์มโมบายแบงกิ้งและอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งที่มีอยู่ ซึ่งมีการเข้าถึงอย่างแพร่หลายแล้ว
  • ประการที่สอง การบริหารจัดการต้นทุนยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการระดมทุนและการเก็บหนี้ Virtual Bank อาจจำเป็นต้องเสนอดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้า ขณะที่การเรียกเก็บเงินตามเอกสารทางการเงินยังคงมีความสำคัญในการให้บริการกลุ่มลูกค้าทั่วไป
  • ประการที่สาม แม้ว่าจุดเน้นจะอยู่ที่การขยายการเข้าถึงกลุ่มผู้ที่เข้าถึงบริการทางการเงินได้จำกัด แต่ความกังวลหลักอยู่ที่ความสามารถในการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนของไทยที่สูงและความสามารถในการชำระหนี้ที่อ่อนแอในเชิงโครงสร้าง
  • ข้อสรุปสำหรับ KTB และ SCB
  • เรามองว่าความเสี่ยงด้านลบมีจำกัด หุ้น KTB มีการแบ่งปันการลงทุนกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงลง ขณะที่ SCB มองว่า Virtual Bank เป็นโอกาสในการขยายแพลตฟอร์มสินเชื่อดิจิทัล เช่น Monix และ Abacus พร้อมใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีของ KakaoBank และ WeBank
  • Monix และ Abacus เป็นบริษัทลูกของ SCB ที่ดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล โดยเน้นในกลุ่ม นาโนไฟแนนซ์ แม้จะมีฐานลูกค้าและพอร์ตสินเชื่อที่ไม่ใหญ่มากนัก — โดย Monix มีลูกค้า 5.3 ล้านราย และวงเงินสินเชื่อ 1.7 หมื่นลบ. ขณะที่ Abacus มีลูกค้า 4.3 ล้านราย และสินเชื่อรวม 6.9 พันลบ. — ทั้งสองยังคงเป็นผู้นำตลาด โดยมีส่วนแบ่งตลาด 33% และ 11% ตามลำดับ Monix สามารถทำกำไรได้แล้ว โดยมี ROA ประมาณ 5% และมีอัตราส่วน NPL อยู่ที่ 5% ขณะที่อัตราเพดานสำหรับนาโนไฟแนนซ์อยู่ที่ 33%
  • โดยรวม การลงทุนดังกล่าวมีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับขนาดของทั้ง KTB และ SCBx สำหรับทั้งสองราย นี่ดูเหมือนจะเป็นการป้องกันความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ — เป็นวิธีการรักษาความสามารถในการแข่งขันโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากล่วงหน้า เผื่อกรณีที่ virtual bank ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ KTB ซึ่งยังคงเป็นหุ้น Top Pick ในกลุ่มนี้ ขณะที่เราชอบจุดเด่นของ SCB ในเรื่องอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง
  •  

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version