Bank Sector (Neutral) – ผลตอบแทนมั่นคงในช่วง NIM ขาลง

เราให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มธนาคารเป็น “NEUTRAL” ด้วยคาดว่าอัตราผลตอบแทนปันผลจะถูกบริหารจัดการให้อยู่ในระดับที่ทรงตัว ผ่านกำไรจากการลงทุนและการเพิ่มอัตราการจ่ายปันผล ท่ามกลางการลดลงของ NIM KTB เป็นหุ้น Top Pick ของเรา ตามด้วย KBANK และ KKP
อัตราผลตอบแทนปันผลมั่นคง; “NEUTRAL”
บทวิเคราะห์นี้เป็นการโอนการวิเคราะห์กลุ่มธนาคารไปยังนักวิเคราะห์ท่านใหม่ โดยยังคงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มฯ เป็น “NEUTRAL” เนื่องจาก 1) เราคาดว่าธนาคารจะสามารถรักษาระดับอัตราผลตอบปันผลที่น่าสนใจที่ 6-9% ในปี 2025-26F แม้ NIM จะลดลง 2) มีปัจจัยหนุนที่ช่วยลดผลกระทบจาก NIM ได้แก่ กำไรจากการลงทุนทั้งจากพันธบัตร และการถือหุ้นในบมจ.การบินไทย (THAI) โอกาสในการเพิ่มอัตราการจ่ายปันผล และการควบคุมต้นทุน และ 3) เรามองว่า P/BV ของกลุ่มธนาคารที่ 0.6 เท่า เทียบกับ ROE ที่ 8.3% ในปี 2026F ยังถือว่าไม่แพง
มีเบาะรองรับกำไร 3-18% ก่อน yield ถูกปรับลดลง
เราทำการทดสอบ stress test เพื่อประเมินว่ากำไรของแต่ละธนาคารสามารถลดลงได้สูงสุดเท่าไหร่ก่อนที่พวกเขาจะต้องปรับเงินปันผลจ่ายปี 2025 ลงให้ต่ำกว่าระดับปี 2024 ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า (Exhibit 9, 13-14) ทุกธนาคารยังสามารถรักษาเงินปันผลจ่ายปี 2025-26F ให้อยู่ใกล้เคียงกับปี 2024 ได้ โดย KTB สามารถต้านทานการลดลงได้สูงสุดถึง 18% จากประมาณการกำไรของเรา BBL และ SCB อยู่ที่ 13%, KBANK อยู่ที่ 10%, KKP อยู่ที่ 8% และ TISCO อยู่ที่ 3%
ปัจจัยต้านผลกระทบจาก NIM ที่ลดลง
อัตราดอกเบี้ยนโยบายถูกปรับลดลงแล้ว 4 ครั้ง จากระดับสูงสุดที่ 2.50% ในเดือนก.ย. 2024 เหลือ 1.50% ในเดือนส.ค. 2025 และเราคาดว่าจะมีการปรับลดอีก 2 ครั้งเหลือ 1.00% ใน 1Q26F หากไม่มีมาตรการบรรเทาผลกระทบ อาจทำให้กำไรสุทธิของกลุ่มฯ ในปี 2026F มี downside 13% จากประมาณการ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าธนาคารจะสามารถจัดการผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยขาลงได้ผ่าน 3 ปัจจัย ได้แก่: 1) ปัจจัยหนุน NIM ผ่านการบริหาร loan-to-deposit ratio, การลดสภาพคล่องส่วนเกิน และการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากประจำ (KBANK มีช่องในการจัดการ) 2) กำไรจากการลงทุน ทั้งจากพันธบัตรและการถือหุ้นใน THAI (KTB มีโอกาส) และ 3) การควบคุมต้นทุน (SCB ที่มีผลงานดีต่อเนื่อง) ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารในปี 2026F จะลดลงเพียง 6% y-y
KTB เป็น Top Pick ในกลุ่มฯ
เราชอบ KTB มากที่สุดในกลุ่มฯ จากการมีศักยภาพและกลไกในการบริหารจัดการเพื่อรักษาผลตอบแทนปันผลให้อยู่ในระดับสูง เราปรับคำแนะนำ KBANK เป็น “ซื้อ” (จาก ถือ) ด้วยมีนโยบายเพิ่มอัตราการจ่ายปันผล และคุณภาพสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพ KKP โดดเด่นในกลุ่มธนาคารขนาดเล็กจากความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่เริ่มลดลง เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” SCB และ TISCO ด้วยให้ yield สูง แต่มูลค่าแพง และปรับลดคำแนะนำ BBL เป็น “ขาย” (จาก ซื้อ) ด้วยเผชิญแรงกดดันจาก NIM มากกว่าคู่แข่ง และไม่มีแผนเพิ่มอัตราการจ่ายปันผล ดูประมาณกำไรใหม่ใน Exhibit 31 และราคาเป้าหมายปีฐานใหม่ปี 2026F ใน Exhibit 30