Company Equity 14 Sept 2025, 18:31

KKP (BUY) – อยู่ในช่วงเริ่มต้นของรอบการฟื้นตัว –Target Price Bt67.00, Price Bt59.00


เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” KKP เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ในช่วงต้นของรอบการฟื้นตัว เราคาดว่า EPS จะเติบโต 9/10% ในปี 2026–27F หนุนโดย Credit Cost ที่ลดลง NIM ที่ขยายตัว และการบริหารจัดการเงินทุน นอกจากนี้ KKP ยังเป็นหุ้นที่ให้ปันผลสูงที่อัตราผลตอบแทนปันผลที่ 7-9% ต่อปี

เข้าสู่ระยะฟื้นตัว; แนะนำ “ซื้อ”

บทวิเคราะห์นี้เป็นส่วนหนึ่งของบทวิเคราะห์กลุ่มธนาคาร “ผลตอบแทนมั่นคงในช่วง NIM ขาลง” วันที่ 12 กันยายน 2025 เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” KKP และปรับราคาเป้าหมายเป็น 67.0 บาท (จาก 58.0 บาท) จากการ ปรับกำไรขึ้น 1–4% ในปี 2025–27F และปรับมาใช้ปีฐาน 2026F 1) credit cost ของ KKP มีแนวโน้มลดลงจากการเคลียร์พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ และการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์มือสอง 2)ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งมีแนวโน้มโตต่อเนื่อง 3) เราคาดว่า KKP จะเป็นธนาคารเดียวที่มีกำไรเติบโตในปี 2026F ที่ 9% จากการขยายตัวของ NIM และ credit cost ที่ลดลง 4) เราคาดว่า KKP จะมีอัตราผลตอบแทนปันผลที่น่าสนใจที่ 7–9% ต่อปี ในปี 2025–27F และ 5) KKP ถือว่าไม่แพง ที่ P/BV ที่ 0.7 เท่า เทียบกับ ROE ที่ 8.5% และ EPS ที่เติบโต 9% ในปี 2026F

Credit cost เข้าสู่ช่วงขาลงเชิงโครงสร้าง

Credit cost รวมของ KKP (รวมค่าเผื่อ ECL และขาดทุนจากการขาย) ลดลงมาอยู่ที่ 1.9% ใน 1H25 จาก 2.5% ใน 1H24 เนื่องจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1) การล้างพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อที่เป็นหนี้ตกค้างจากปี 2022–23 แล้ว เสร็จใน 2H24 ทำให้ขาดทุนจากการขายทรัพย์สินลดลงเหลือราว 650 ลบ. ต่อไตรมาส จากจุดสูงสุดที่ 1.4 พันลบ. ใน 1Q24 2)  คุณภาพสินทรัพย์ในสินเชื่อประเภทอื่นมีเสถียรภาพ ทำให้การกันเงินสำรองเพิ่มเติมมีจำกัดสำหรับแนวโน้ม เราเชื่อว่า ตลาดรถยนต์มือสองที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ทั้งในแง่ของอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและจำนวนการยึดรถที่ลดลง ซึ่งจะช่วยพยุงราคาขายต่อ และลดแรงกดดันต่อ credit cost เราคาดว่า credit cost ของ KKP จะอยู่ที่ 1.8/1.8/1.6% ในปี 2025–27F เทียบกับ 2.3% ในปี 2024

รายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตสร้างกำไรที่มั่นคงยิ่งขึ้น

KKP เพิ่มความพยายามในการกระจายแหล่งรายได้โดยการขยายธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและบริหารจัดการกองทุนรวม ขณะที่ลดการพึ่งพาธุรกิจตลาดทุนและธุรกิจสินเชื่อที่มีความผันผวน ใน 2Q25 KKP ได้จับมือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์กับ Goldman Sachs Asset Management (GSAM) ทำให้ KKP ได้สิทธิ์พิเศษในการให้บริการคำปรึกษาด้านการลงทุนแบบหลากหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset) จาก GSAM ในไทย ซึ่งจะช่วยขยายทางเลือกการลงทุนในระดับโลกให้กับลูกค้า และเสริมความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มบริหารความมั่งคั่งของ KKP ผู้บริหารคาดว่าความร่วมมือนี้จะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มิดอกเบี้ยสุทธิให้สูงขึ้นเป็น 35-40% ของรายได้รวมในระยะกลาง เทียบกับราว 28% ใน 1H25 เรามองบวกต่อแนวโน้มธุรกิจบริหารความมั่งคั่งจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ลงทุนในต่างประเทศ และผลิตภัณฑ์เฉพาะจาก GSAM

เงินปันผลน่าสนใจ และ ROE มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

เราคาดว่า KKP จะยังคงขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง ขณะที่ผู้บริหารยังคงยืนยันกลยุทธ์การบริหารทุนเชิงรุก เพื่อให้บรรลุเป้า ROE ที่ 9–10% เทียบกับ 7.8% ใน 1H25 ดังนั้นเราจึงคาดว่าอัตราการจ่ายปันผลจะปรับขึ้นเล็กน้อยจาก 67% ในปี 2024 เป็นราว 70/70/70% ในปี 2025–27F เราคาดว่าอัตราผลตอบแทนปันผลจะอยู่ที่ 7-9% ในปี 2025-27F และยังคาดว่า ROE จะปรับขึ้นเป็น 8.5% ในปี 2027F จาก 8.1% ในปี 2024

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……

รายงานฉบับภาษาไทย Thai Version

รายงานฉบับภาษาอังกฤษ English Version