Hotel Sector (Overweight) – กลับมาเติบโต

หลังเผชิญแรงกดดันจากการปรับฐานนักท่องเที่ยวจีนในปีนี้ เราคาดว่ากลุ่มโรงแรมไทยจะกลับเข้าสู่เส้นทางการเติบโต โดยมี EPS เติบโตเฉลี่ยที่ 14% ในปี 2026–28F หนุนโดยอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง การเติบโตของรายได้ที่กลับสู่ปกติ และอัตรากำไรที่ขยายตัว เราคงน้ำหนักลงทุนเป็น “OVERWEIGHT”
กลับสู่โหมดการเติบโตระดับเลขสองหลัก “OVERWEIGHT”
เรายังคงให้น้ำหนักลงทุนเป็น “OVERWEIGHT” กลุ่มโรงแรมไทย 1) จำนวนนักท่องเที่ยวได้แตะจุดต่ำสุดและเริ่มฟื้นตัวแล้ว 2) หลัง EPS เติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 2% ในปี 2025F อันเป็นผลจากการปรับฐานของนักท่องเที่ยวจีน เราคาดว่าจะกลับมาเติบโตเฉลี่ยที่ 14% ในปี 2026–28F 3) การขยายและการปรับปรุงโรงแรมยังคงเป็นแรงหนุนการเติบโตระยะยาวโดยไม่กระทบต่อความแข็งแกร่งของงบดุล และเราคาดว่าอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุนจะอยู่ที่ 0.6 เท่า ในปี 2028F เทียบกับ 0.8 เท่า ในปี 2024 และ 4) มูลค่าถูกปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยซื้อขายที่ 2026F PE ที่ 16.1 เท่า เทียบกับ 34.1/24.5 เท่า ในปี 2023–24 ขณะที่ EV/EBITDA ปี 2026F อยู่ที่ 6.3 เท่า ต่ำกว่าระดับ 8.2/7.2 เท่า ในปี 2023–24
จำนวนนักท่องเที่ยวแตะจุดต่ำสุด และเริ่มฟื้นตัว
จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 7% y-y ใน 8M25 อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวได้แตะจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q25 และเริ่มมีเสถียรภาพใน 3Q25F ก่อนเข้าสู่ช่วงไฮซีซันใน 4Q25 และ 1Q26 เนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยว 8M25 ที่อ่อนแอ เราจึงปรับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวลง 1-2% ต่อปี เหลือ 33.2/34.2/35.2 /36.3 ล้านคน ในปี 2025-28F อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าผลกระทบต่อ RevPAR ในกลุ่มโรงแรมหรูริมชายหาดจะมีจำกัด เนื่องจากกลุ่มนี้ยังคงแข็งแกร่งเป็นพิเศษ โดยเฉพาะความสามารถในการรักษา ARR ได้
EPS เติบโตเฉลี่ย 3 ปีที่ 14%
เราคาดว่า EPS สำหรับกลุ่มโรงแรมจะเติบโต 14/13/14% ในปี 2026-28F โดยมีปัจจัยหนุนหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงระดับหนี้ที่ลดลง 2) คาดว่ารายได้รวมจะเติบโตอย่างสม่ำเสมอที่ 5% ต่อปี หนุนโดยการขยายโรงแรม การเติบโตเชิงโครงสร้างของจำนวนนักท่องเที่ยว และการปรับเพิ่มขึ้นของราคาเฉลี่ยต่อห้อง (ARR) และ 3) เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 44.6/45.0/45.2% ในปี 2026-28F จาก 44.4% ในปี 2025F และอัตรากำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มเป็น 11.6/12.0/12.3% ในปี 2026-28F จาก 11.5% ในปี 2025F ได้แรงหนุนจากการประหยัดต่อขนาด การควบคุมต้นทุน และการขาดทุนจากโรงแรมเปิดใหม่ลดลง
MINT ยังคงเป็น Top Pick ของเราในกลุ่มฯ
เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้นโรงแรมทั้งสามตัวที่เราทำบทวิเคราะห์ โดยให้ MINT เป็น Top Pick ตามด้วย CENTEL และ ERW เราคาดว่า MINT จะมี EPS เติบโตเฉลี่ยที่ 16% ในปี 2026-28F ใกล้เคียงกับของ CENTEL ที่ 18% แต่ MINT ซื้อขายที่มูลค่าที่น่าสนใจกว่า (PE 15.6 เท่า และ EV/EBITDA 5.5 เท่า เทียบกับ CENTEL ที่ 24.3 เท่า และ 10.9 เท่า) ส่วน ERW มีการเติบโตต่ำกว่า (โตเฉลี่ย 11%) โดยซื้อขายที่ PE ที่ 14.3 เท่า และ EV/EBITDA ที่ 8.4 เท่า
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……