Earnings Equity Industries 24 Oct 2024, 11:07
Hotel Sector (Overweight) – คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 3Q24F
- กำไรปกติของกลุ่มฯ คาดว่าจะเติบโต 19% y-y
- ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นกดดันกำไรของ ERW และ CENTEL
- MINT มีการเติบโตของกำไรปกติแข็งแกร่งสุดใน 3Q24F
- เรายังคงชอบ MINT ที่สุดในกลุ่มโรงแรม
Earnings Preview
- เราคาดว่าธุรกิจโรงแรมจะมีกำไรปกติ 3.0 พันลบ. ใน 3Q24F เพิ่มขึ้น 19% y-y แต่ลดลง 19% q-q เราคาดว่าการเติบโตของกำไรปกติ y-y ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจโรงแรมของ MINT การลดลงของกำไรปกติ q-q น่าจะเกิดจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดโรงแรมใหม่ของ CENTEL และ ERW รวมถึงผลการดำเนินงานของ MINT ที่ลดลงในยุโรปใน 3Q24 อีกทั้งไตรมาส 2 ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นในยุโรปด้วย
- CENTEL: เราคาดว่า CENTEL จะมีกำไรปกติ 78 ลบ. ใน 3Q24F เพิ่มขึ้น 6% y-y แต่ลดลง 75% q-q เราคาดว่าการเติบโตของกำไร y-y ส่วนใหญ่มาจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจอาหาร กำไรที่ลดลงอย่างมาก q-q นั้นน่าจะเกิดจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก่อนเปิดดำเนินกิจการ (pre-operating expenses) ของโรงแรมแห่งหนึ่งที่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในภูเก็ต รวมถึงโรงแรมใหม่ 2 แห่งในมัลดีฟส์ โดย CENTEL จะกลับมาเปิดโรงแรม Centara Karon Resort Phuket อีกครั้งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนปีนี้ และน่าจะเปิดโรงแรมหนึ่งแห่งในมัลดีฟส์ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ตามด้วยโรงแรมอีกแห่งในมัลดีฟส์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025
- เราคาดว่าอัตราการเข้าพักของ CENTEL จะอยู่ที่ 67% ใน 3Q24F เทียบกับ 68% ใน 3Q23 และ 69% ใน 2Q24 เราประเมินอัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ARR) ของ CENTEL ใน 3Q24F ที่ 4,944 บาท/คืน เพิ่มขึ้น 9% y-y และ 1% q-q RevPar คาดว่าจะเติบโต 8% y-y แต่ลดลง 2% q-q มาอยู่ที่ 3,319 บาท/คืน เราคาดว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของร้านอาหารที่ +3% ใน 3Q24F และการเติบโตของยอดขายรวมทั้งระบบ (TSSG) ที่ 4% ใน 3Q24F
- ERW: เราคาดว่า ERW จะรายงานกำไรปกติที่อ่อนแอที่ 125 ลบ. ใน 3Q24F ลดลง 14% y-y และ 1% q-q ซึ่งน่าจะต่ำกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้ รายได้จากธุรกิจโรงแรมของ ERW คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5% y-y และทรงตัว q-q เป็น 1.8 พันลบ. ใน 3Q24F ในขณะเดียวกัน อัตรากำไรจากการดำเนินงานคาดว่าจะลดลงเหลือ 15.7% ใน 3Q24F จาก 17.3% ใน 3Q23 และ 16.0% ใน 2Q24 เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากโรงแรมใหม่ ERW เปิดโรงแรม HOP INN ใหม่ 2 แห่ง ใน 3Q24 ได้แก่ โรงแรม 1 แห่ง ในจ.นครพนม และ 1 แห่งในดาเวา ประเทศฟิลิปปินส์
- OR ของโรงแรม non HOP-INN ของ ERW คาดว่าจะอยู่ที่ 79% ใน 3Q24 เทียบกับ 82% ใน 3Q23 และ 80% ใน 2Q24 RevPar ของโรงแรม non HOP INN ใน 3Q24F คาดว่าจะเติบโตขึ้น 2% y-y และ 1% q-q เป็นราว 2,500 บาท/ห้อง/คืน OR ของโรงแรม HOP INN ในประเทศไทยคาดว่าจะอยู่ที่ 78% ใน 3Q24F เทียบกับ 81% ใน 3Q23 และ 80% ใน 2Q24 RevPar ใน 3Q24F คาดว่าจะเติบโตขึ้น 6% y-y แต่ลดลง 2% q-q เป็นราว 560 บาท/คืน OR ของโรงแรม HOP INN ในประเทศฟิลิปปินส์คาดว่าจะอยู่ที่ 70% ใน 3Q24F เทียบกับ 79% ใน 3Q23 และ 77% ใน 2Q24 RevPar ใน 3Q24F คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 700 บาท/คืน ลดลง 11% y-y และลดลง 8% q-q
- MINT: เราคาดว่า MINT จะรายงานกำไรปกติ 2.8 พันลบ. ใน 3Q24F เพิ่มขึ้น 21% y-y แต่ลดลง 15% q-q เราคาดว่าการเติบโตของกำไรปกติ y-y ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการดำเนินงานของโรงแรมที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปและประเทศไทย เราคาดว่า RevPar ของโรงแรมในยุโรปและประเทศไทยจะเติบโตขึ้น 9% และ 12% y-y ใน 3Q24F ธุรกิจอาหารของ MINT คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานอ่อนแอใน 3Q24F เราคาดว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมใน 3Q24F จะอยู่ที่ -2.7% (-0.7% SSSG สำหรับธุรกิจอาหารในประเทศไทย -20% สำหรับจีน และ -1.6% สำหรับออสเตรเลีย) และยอดขายสาขาเดิมทั้งระบบ (TSSG) อยู่ที่ +0.4% ในขณะเดียวกัน การลดลงของกำไรปกติ q-q น่าจะเกิดจากผลการดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจโรงแรมในยุโรป (ไตรมาส 2 เป็นช่วงไฮซีซั่น)
- เราคาดว่า MINT จะมีผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 2.6 พันลบ. ใน 3Q24F หากรวมรายการพิเศษนี้เข้าไปด้วย คาดว่า MINT จะรายงานกำไรสุทธิที่ 159 ลบ. ใน 3Q24F ลดลง 93% y-y และลดลง 94% q-q
- สำหรับ 4Q24F เราคาดว่าจะเห็นแนวโน้มของกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นในกลุ่มนี้ เนื่องจากธุรกิจโรงแรมและอาหารในประเทศไทยปรับตัวดีขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนโดยนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่เพิ่มขึ้น เรายังคงชอบ MINT มากที่สุดในกลุ่มโรงแรม รองลงมาคือ CENTEL
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……