Earnings Equity Industries 23 Apr 2025, 01:50
Bank Sector (Neutral) – กำไร 1Q25 ออกมาดี

- กำไร 1Q25 เติบโต 5% y-y และ 13% q-q
- ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากกำไรจากการลงทุนและการควบคุมต้นทุนที่ดี
- NPLs เพิ่มขึ้นจากการกลับมาเป็นหนี้เสียอีกครั้งและการจัดการแก้ไขหนี้ที่ล่าช้า
- ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาษี เรายังคงชอบ KTB และ TTB
Results Comment
- ด้วยแรงหนุนจากกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมจากการลงทุน และการควบคุมต้นทุนอย่างมีวินัย ธนาคารทั้งเจ็ดแห่งที่เราทำบทวิเคราะห์ จึงรายงานกำไรสุทธิ 1Q25 เติบโตดีที่ 5% y-y และ 13% q-q NPLs เพิ่มขึ้นจากการกลับมาเป็นหนี้เสียอีกครั้งและการฟื้นฟูที่ล่าช้า แต่คุณภาพสินทรัพย์ยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เนื่องจากการเคลียร์งบดุลในช่วงก่อนหน้า และการเติบโตของสินเชื่อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม กำไรยังไม่สะท้อนผลกระทบจากความไม่แน่นอนของสงครามภาษีที่ยังดำเนินอยู่ ซึ่งยิ่งถ่วงเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่แล้ว เราเห็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อคุณภาพงบดุลและความยั่งยืนของการจ่ายเงินปันผล เรายังคงเลือก KTB เป็นหุ้น Top Pick เนื่องจากมีความเสี่ยงจากสงครามภาษีที่จำกัด ขณะที่ TTB มีแรงหนุนจากโครงการซื้อหุ้นคืน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง
- การเติบโตของสินเชื่อยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยถูกกดดันจากการชำระคืนหนี้ของกลุ่มลูกค้ารายย่อย, SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ โดยมีเพียง BBL และ SCBx เท่านั้นที่รายงานการเติบโตของสินเชื่อที่เป็นบวก q-q
- NIM หดตัวลง โดยหลักมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่การปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (deposit repricing) โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก ล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
- โครงการช่วยเหลือลูกหนี้ “You Fight, We Help” ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่ออัตราผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อ (lending yields) โดยเฉพาะในกรณีของ TISCO ซึ่งส่วนใหญ่ของสินเชื่อที่เข้าร่วมโครงการเป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (auto HP) TTB และ SCBx ก็ได้รับผลกระทบในระดับปานกลางเช่นกัน ณ เดือนมีนาคม 2025 อัตราการเข้าร่วมโครงการอยู่ที่ 1.1% สำหรับ TISCO, 1.6% สำหรับ TTB และ 1.6–2% สำหรับ SCBx ขณะที่ BBL และ KBANK ไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงินกู้ที่เข้าร่วม แต่ระบุว่าอัตราการเข้าร่วมต่ำกว่า 2% ผลประโยชน์จากการตั้งสำรองหนี้ (provisioning) ที่ได้จากโครงการนี้ยังมีจำกัดในไตรมาสนี้ โดยธนาคารต่างๆ คาดว่าจะเห็นผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้นในปี 2026
- NPLs เพิ่มขึ้นจากการกลับมาเป็นหนี้เสียอีกครั้ง (relapse) และกระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ล่าช้า แม้กระนั้นคุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เนื่องจากมีการเคลียร์งบดุลไปก่อนหน้านี้ ประกอบกับการเติบโตของสินเชื่อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ credit costs ลดลงสำหรับ KBANK, SCBx และ KKP ขณะที่ BBL, KTB และ TTB มีการตั้งสำรองเพิ่มเติม
- รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่มาจากกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของตราสารหนี้และสินทรัพย์ดิจิทัล (SCB10x) รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 1% y-y อย่างไรก็ตาม รายได้จากการบริหารความมั่งคั่ง (wealth management) ปรับตัวดีขึ้นในกรณีของ KBANK และ SCBx
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Opex) อยู่ภายใต้การควบคุมได้ดี และธนาคารยังคงมองหาโอกาสในการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเป็นเบาะรองรับต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคที่ยังดำเนินอยู่
- การบริหารจัดการเงินทุน (capital management) ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ธนาคารให้ความสำคัญ อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นในการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงเหมือนปีก่อนดูจะลดลง
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……