Energy (Neutral) – เลือกเฉพาะหุ้นปันผลดี

เราปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนกลุ่มพลังงานไทยเป็น “NEUTRAL” ด้วยให้อัตราผลตอบแทนปันผลน่าสนใจมากขึ้นท่ามกลางวัฏจักรธุรกิจขาลง เราชอบกลุ่ม E&P และโรงกลั่น มากกว่าปิโตรเคมี Top Pick คือ PTT และ PTTEP
เลือกหุ้นปันผลดีในช่วงวัฏจักรขาลง
เราปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนกลุ่มพลังงานไทยจาก Underweight เป็น “NEUTRAL” 1) แม้อุตสาหกรรมจะยังอ่อนแอ แต่มองว่าอัตราผลตอบแทนปันผลน่าสนใจ เพราะกระแสเงินสดที่อยู่ในระดับต่ำสุดแล้วในช่วงต่ำสุดของวัฏจักร ซึ่งอัตราผลตอบแทนนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงที่ราคาหุ้นจะปรับลงอีกด้วย 2) หลายบริษัทในกลุ่มได้ปรับกลยุทธ์การลงทุนให้ระมัดระวังมากขึ้น และพยายามสร้างรายได้จากสินทรัพย์ และ 3) แนวโน้มอุตสาหกรรมโดยรวมยังคงอ่อนแอ จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และวัฏจักรการเพิ่มกำลังการผลิตที่ต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ช่วงวัฏจักรขาลงยืดเยื้อออกไป
ปิโตรเคมีคือจุดอ่อนที่สุด
เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวควบคู่กับอุปทานที่เพิ่มขึ้นทั้งจาก OPEC และสหรัฐฯ เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันไม่น่าจะลดลงไปมากกว่านี้ เนื่องจากได้รับการพยุงจากโครงสร้างต้นทุนของ shale oil และปัจจัยเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ US$70/65/65/bbl ในปี 2025-27F เราคาดว่ากลุ่มโรงกลั่นน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และคาดว่าค่าการกลั่นของสิงคโปร์จะทรงตัวที่ US$5.5-5.8/bbl ในปี 2025-27F จากอุปทานใหม่ที่จำกัด และการปรับโครงสร้างอุปทานในตลาด เรามองว่ากลุ่มปิโตรเคมีอยู่ในภาวะเลวร้ายที่สุด เนื่องจากความต้องการที่อ่อนแอจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อุปทานขนาดใหญ่ที่เกิดจากนโยบายพึ่งพาตนเองของจีน และประเทศไทยกำลังกลายเป็นผู้ผลิตที่มีต้นทุนสูงขึ้นอย่างถาวร เนื่องจากแหล่งก๊าซราคาถูกที่ลดลง, ขนาดการผลิตที่ใหญ่ขึ้นของจีน และสหรัฐฯ ที่มีทรัพยากรก๊าซธรรมชาติและการผลิตจำนวนมาก
มูลค่าไม่น่าสนใจ
แม้จะถูก de-rated มาเป็นเวลานาน แต่เรายังคงมองว่ามูลค่าหุ้นกลุ่มพลังงานไทยไม่น่าสนใจ กลุ่มซื้อขายที่ 2025-26F PE เฉลี่ยที่ 13.9/13.2 เท่า เทียบกับกำไรปกติต่อหุ้นที่เติบโตที่ -6/+15% อีกทั้ง P/BV อยู่ที่ 0.6 เท่า เทียบกับ ROE ที่ต่ำมากที่ 6.8/6.5% ในปี 2025-27F อัตราผลตอบแทนปันผลจึงเป็นมุมเดียวที่นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนเฉพาะบางหุ้นในกลุ่มนี้ได้
แนะนำ “ซื้อ” 6 ตัว ในกลุ่มฯ
PTT เป็น Top Pick ของเราในกลุ่มฯ เราคาดว่าเงินปันผลต่อหุ้นในระดับที่จ่ายได้และมีเสถียรภาพอยู่ที่ 2.1 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผล 6.7% ในปี 2025-27F เรามองว่ามูลค่าหุ้นของ PTTEP สะท้อนราคาน้ำมันในระดับต่ำไปแล้ว และที่ระดับราคานี้ บริษัทฯ ยังสามารถให้อัตราผลตอบแทนปันผลที่ 7.1% ได้ในปี 2025F SPRC เป็นโรงกลั่นที่มีกระแสเงินสดดี ไม่มีความเสี่ยงจากการลงทุนใหม่ และเราคาดว่าให้อัตราผลตอบแทนปันผลที่ 6.7% เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” BCP BSRC และ TOP เนื่องจากมูลค่าน่าสนใจมากขึ้น และ GRM ที่มีเสถียรภาพ ขณะที่หุ้นที่เรามองว่าแพง และแนะนำ “ขาย” ได้แก่ IVL SCC PTTGC และ IRPC
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……