Equity Industries 25 Sept 2025, 12:08
Bank Sector (Neutral) – คาดกำไร 3Q25F ดี

- การขยายระยะเวลาและขอบเขตของโครงการบรรเทาหนี้
- ยังคงมีข้อจำกัดด้านการปล่อยสินเชื่อใหม่ ทำให้ไม่น่าจะมีการเข้าร่วมเต็มจำนวน
- เป็นผลบวกต่อการปกป้องงบดุลมากกว่าการเติบโตของสินเชื่อ
- เรายังคงชอบ KTB และ SCB มากกว่า
Earnings Preview
- เราคาดว่าธนาคารในกลุ่มที่เราทำบทวิเคราะห์จะรายงานกำไรสุทธิรวม 3Q25 ที่ 5.3 หมื่นลบ. (+7% y-y, +3% q-q) การเติบโตทั้ง y-y และ q-q ได้แรงหนุนหลักจากกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรม (MTM) หุ้นการบินไทย (THAI) ที่ KTB อย่างไรก็ดี หากไม่รวมรายการพิเศษนี้ กำไรสุทธิน่าจะลดลงทั้ง y-y และ q-q เนื่องจากถูกกดดันหลักจาก NIM ที่ลดลง และ ปริมาณสินเชื่อที่ชะลอตัว ประเด็นสำคัญ: 1) NIM รวมน่าจะลดลง 7bps q-q จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยน่าจะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งจากพอร์ตพันธบัตร และกำไร MTM หุ้น THAI และ 3) คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
- KTB น่าจะมีกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุด จากกำไร MTM และคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแรง ในทางกลับกัน เราคาดว่า BBL จะมีกำไรลดลงแรงที่สุด y-y จากแรงกดดันของ NIM ที่อ่อนตัวลง
- การหดตัวของสินเชื่อ: เราคาดว่าสินเชื่อรวมจะหดตัว 1.9% q-q และ 0.7% y-y จากการชะลอตัวในทุกเซ็กเมนต์ เนื่องจากธนาคารยังคงดำเนินนโยบายปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ธนาคารทุกแห่งคาดว่าจะรายงานการเติบโตของสินเชื่อ q-q ที่ติดลบ โดย BBL จะเห็นการหดตัวแรงที่สุดที่ -3%
- การลดลงของ NIM: คาดว่า NIM รวมจะลดลง 7bps q-q เหลือ 3.08% จากแรงกดดันของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้ว่าต้นทุนทางการเงินจะมีแนวโน้มลดลง แต่ไม่เพียงพอที่จะชดเชยการลดลงของผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ BBL น่าจะเห็น NIM ลดลงแรงที่สุดที่ 9bps q-q ขณะที่ TISCO จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเพียง 1bp
- รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยแข็งแกร่ง: เราคาดว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยของกลุ่มธนาคารจะเติบโต 23% y-y และ 45% q-q โดยมีแรงหนุนหลัก 2 ปัจจัย คือ 1) ธนาคารยังคงบันทึกรายได้จากการซื้อขายพันธบัตรที่แข็งแกร่ง กำไร MTM จากการลงทุนในหุ้นภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เอื้ออำนวยมากขึ้น และกำไร MTM จากหุ้นการบินไทย (THAI “ขาย”) ที่ KTB 2) รายได้ค่าธรรมเนียมมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น q-q ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย
- การควบคุมต้นทุนที่ดี: ท่ามกลางรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่อ่อนตัว เราเชื่อว่าธนาคารจะเข้มงวดเรื่องการควบคุมต้นทุน เช่น การลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด และการชะลอการลงทุนด้านไอที เราคาดว่าธนาคารส่วนใหญ่ (ยกเว้น KTB) จะรายงานค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง y-y อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายของ KTB มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากธนาคารอาจใช้กำไรจากหุ้นการบินไทย (THAI) จัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษ รวมถึงการตั้งค่าเผื่อด้อยค่าสินทรัพย์ที่ไม่ก่อรายได้ (NPA impairment)
- คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับที่ควบคุมได้: เราคาดว่า NPL รวมจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.6% q-q โดยได้แรงหนุนหลักจาก NPL ที่กลับมาเป็นปัญหาของ BBL ขณะที่ธนาคารอื่นๆ น่าจะรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับคงที่ Credit cost มีแนวโน้มยังคงสูงที่ 151bps เราเชื่อว่าธนาคารจะใช้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่แข็งแกร่งในการสร้างเบาะรองรับเพิ่มเติมเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต โดยเฉพาะที่ KTB จากกำไร MTM
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน……